ดูแลที่นอนอย่างไรให้เหมือนใหม่ ตื่นเต็มสุข สดชื่นอยู่เสมอ

อีกหนึ่งมิติในการวัดความสุขของชีวิต คือ เมื่อถึงเวลานอนหลับ คุณนอนหลับได้อย่างมีคุณภาพหรือไม่ นอนหลับได้อย่างสนิท หลับได้ลึกหรือเปล่า จึงไม่เป็นที่แปลกใจที่หลายคนหันมาลงทุนกับการนอน โดยเฉพาะเครื่องนอน จะเห็นได้ว่า ตอนนี้ได้มีเครื่องนอนเพื่อสุขภาพที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น อาทิ ที่นอนเพื่อสุขภาพ, ที่นอนโรงแรม, ที่นอนยางพารา, ที่นอนลดการกดทับ, ที่นอนเมมโมรี่โฟม, ที่นอนเย็นสบาย รวมถึง ผ้าห่ม และ หมอนเพื่อสุขภาพที่รองรับการนอนให้มีความสบาย เพื่อยกระดับการนอนให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากการเลือกเครื่องนอนให้เหมาะสมกับสรีระ ท่านอน น้ำหนักตัว และความชอบส่วนตัวแล้ว อีกสิ่งสำคัญที่หลายๆคนอาจละเลย คือ การดูแลรักษาเครื่องนอนให้สะอาด โดยเฉพาะที่นอนที่ช่วยให้สุขอนามัยและคุณภาพของการนอนดียิ่งขึ้น วันนี้ Komfy จึงอยากมาแชร์เคล็ดลับการดูแลที่นอนให้มีอายุที่นอนให้ยืนยาวเหมือนใหม่ เพื่อให้การนอนในทุกค่ำคืนของคุณ เท่ากับการตื่นอย่างเต็มสุขในทุกเช้า

1. ควรแกะพลาสติกที่ใช้หุ้มที่นอน 

เมื่อซื้อที่นอนหลังใหม่ หลายท่านอาจจะยังไม่กล้าที่จะแกะพลาสติกออกเพราะกลัวที่นอนจะเก่าเร็ว แต่การมีพลาสติกคลุมที่นอนจะทำให้การนอนหลับของเราไม่สบายอย่างที่ควรจะเป็น เพราะจะเป็นการปิดกั้นการเข้าถึงผิวสัมผัสที่แท้จริง และการยืดหยุ่น ประสิทธิภาพการกระจายน้ำหนัก และลดจุดกดทับของที่นอน ทั้งนี้เสียงของพลาสติกจะคอยรบกวนการนอนตลอดคืน เราจึงแนะนำให้แกะพลาสติกออกเพื่อช่วยให้ที่นอนสามารถระบายอากาศได้ดียิ่งขึ้น และยังมอบความสบายให้กับการนอนได้อย่างเต็มที่อีกด้วย

2. ควรหมั่นรักษาความสะอาดและใช้ผ้ารองกันเปื้อนกันน้ำกันไรฝุ่นจาก Komfy

เพื่อตอบโจทย์และเติมเต็มการนอนให้มีประสิทธิภาพอย่างสมบูรณ์ ควรใช้ผ้ารองกันเปื้อนกันน้ำกันไรฝุ่นหรือผ้าคลุมกันเปื้อนก่อนหนึ่งชั้นและค่อยปูทับด้วยผ้าปูที่นอน เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกต่างๆ ทั้งคราบเหงื่อ หรือความชื้นจากผิวตัวเราซึมลงที่นอน เพื่อให้คุณพร้อมเข้าสู่สุขอนามัยแห่งการนอนหลับที่ยอดเยี่ยมและความสบายอย่างไร้ที่ติ 

ซึ่งผ้ารองกันเปื้อนกันน้ำกันไรฝุ่นจาก Komfy เราตั้งใจ “คราฟท์” ทุกรายละเอียด  ด้วยการออกแบบมาเพื่อปกป้องที่นอนสุดพรีเมียมของคุณ เพื่อให้ที่นอนของคุณสะอาด ดูใหม่ และยังช่วยยืดอายุการใช้งาน คงสภาพของที่นอนที่ดีอยู่เสมอ  ด้วยเทคนิคทอละเอียดพิเศษทำให้เนื้อผ้าสัมผัสนุ่มสบาย ไม่กระด้าง ได้รับการรับรองจากศูนย์วิจัยศิริราช ป้องกันไรฝุ่น 100% และพิเศษยิ่งขึ้นด้วยประสิทธิภาพในการกันน้ำ 


ทั้งนี้ควรซักทำความสะอาดผ้าปู ผ้ารองกันเปื้อนกันน้ำกันไรฝุ่น และดูดฝุ่นจากที่นอน อย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง (หากมีเด็กเล็กแนะนำเดือนละ 3 ครั้ง) เพื่อกำจัดฝุ่นจากอากาศที่ตกลงบนพื้นผิว และ/  หรือคราบเหงื่อที่อาจสะสมได้

3. เปิดผ้าม่านหรือหน้าต่างให้แสงแดดส่องถึงที่นอน เพื่อระบายอากาศ

เมื่อถึงเวลานำผ้าปูไปซัก ระหว่างรอเปลี่ยนผ้าปูที่นอนใหม่ แนะนำให้เปิดหน้าต่างเพื่อให้แสงแดดส่องถึงที่นอน เพื่อให้ที่นอนได้ระบายอากาศได้อย่างเต็มที่ หลีกเลี่ยงการนำที่นอนไปตากแดดโดยตรง โดยเฉพาะที่นอนที่มีส่วนผสมของ ยางพารา หรือ เมมโมรี่โฟม เพราะการตากแดดจัดอาจทำให้ที่นอนประเภทนี้อาจเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ

4. การหมุนที่นอน สลับหัวท้าย 180° ทุก 4-6 เดือน

นอกจากการทำความสะอาดเป็นประจำแล้ว Komfy แนะนำให้หมุนสลับตำแหน่งหัวและท้ายของที่นอน 180° ทุกๆ 4-6 เดือนเพื่อรักษาสภาพ และยืดอายุการคงตัวของโครงสร้างที่นอนให้สามารถการกระจายน้ำหนักได้อย่างแม่นยำเหมือนใหม่ และยังเป็นการยืดอายุการใช้งานของที่นอนให้ยาวนานยิ่งขึ้นอีกด้วย

เพราะการนอนในทุกค่ำคืน คือ จุดเริ่มต้นของเช้าวันถัดไป  ‘ที่นอน Komfy’ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่อยากลงทุนให้สุขภาพการนอนมีคุณภาพยิ่งขึ้น ลองให้ที่นอน Komfy เป็นผู้ส่งมอบความสบายให้กับการนอนของคุณ เพื่อให้คุณตื่นอย่างเต็มสุขในทุกเช้านะคะ : )

เพราะการซื้อหมอนคือการลงทุนในสุขภาพ

ถ้านึกถึงการลงทุนในสุขภาพ หลาย ๆ ท่านคงจะนึกถึงการซื้อประกันสุขภาพ และแน่นอนหากใครที่ซื้อประกันสุขภาพรายปี หรือหลายท่านที่กำลังจะตัดสินใจซื้อแต่ก็ยังกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย และยังมีอีกหลายท่านที่อาจจะรู้สึกเสียดายเงินเพราะหากเราไม่ได้ป่วยก็จะไม่ต่างกับการจ่ายเบี้ยทิ้งเปล่าไปแต่ละปี แต่ถ้าหากมีอาการเจ็บป่วยเกิดขึ้นและจำเป็นที่จะต้องนอนโรงพยาบาล และยิ่งหากค่ารักษาพยาบาลอยู่ในวงเงินประกันที่คุ้มครอง คุณก็จะรู้สึกอุ่นใจทันที

แต่อีกสิ่งสำคัญที่คนลืมนึกถึง และอาจละเลยไปนั่นคือการนอน เพราะการนอนหลับเป็นอีกสิ่งสำคัญของมนุษย์ไม่น้อยไปกว่าการได้รับประทานอาหารที่ดี เพราะเราใช้เวลา 1 ส่วน 3 ของชีวิตไปกับการนอนหลับ การนอนหลับที่มีคุณภาพก็จะส่งผลให้ชีวิต และการใช้ชีวิตในแต่ละวันเต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพเช่นเดียวกัน

วางแผนสุขภาพเริ่มต้นด้วยการลงทุนใน “หมอน”

หมอนเป็นเครื่องนอนชิ้นแรกที่เราควรให้ความสำคัญ เพราะหมอนมีหน้าที่รองรับบริเวณลำคอและศีรษะ หากคุณเลือกหมอนรูปทรงที่เหมาะสมกับท่านอน ขนาดที่กำลังพอดีรองรับสรีระ ก็จะช่วยส่งผลดีต่ออวัยวะทุกส่วน และยังช่วยจัดระเบียบร่างกายให่อยู่ในท่าที่ถูกหลักสรีรศาสตร์อีกด้วย เมื่อคุณพบหมอนที่ใช่ ก็จะทำให้การนอนหลับมีคุณภาพยิ่งขึ้น นอนได้อย่างเต็มตื่น ซึ่งไม่ต่างจากการลงทุนในสุขภาพระยะยาว หมอนจึงเป็นปัจจัยสำคัญแรกของเครื่องนอนที่เราควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก

หมอนที่ “ใช่”

อันดับแรกควรเลือกหมอนที่ตอบโจทย์สำหรับท่านอนของเรา ให้เราลองสังเกต หรือถามคนข้างกายว่าเราเป็นคนนอนในท่าไหน นอนหงาย นอนตะแคง หรือทั้งนอนหงายและนอนตะแคง เพราะหมอนที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ท่านอนจะถูกออกแบบมาเพื่อรองรับสรีระในท่านอนนั้นๆ เพื่อเติมเต็มและลดช่องว่างระหว่างสรีระกับตัวหมอน

หมอนที่ตอบโจทย์สำหรับท่านอน

Komfy ให้ความสำคัญกับท่านอนและหมอนที่จะมาช่วยรองรับเป็นอย่างมาก จึงได้ศึกษา คิดค้น และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ จนเกิดผลิตภัณฑ์หมอนสำหรับท่านอนต่างๆ ภายใต้คอลเลคชั่น Kool Signature เพื่อตอบโจทย์ให้การนอนหลับมีคุณภาพและให้คุณได้ตื่นอย่างเต็มสุข

  • Kool Krafted Kontour หมอนหนุนสำหรับท่านอนหงาย ที่เน้นการรองรับบริเวณท้ายทอยและศีรษะ ช่วยให้การพักผ่อนในท่านอนหงายสบายมากยิ่งขึ้น บรรเทาอาการปวดคอ บ่า ไหล่ จากการนอนตกหมอน พร้อมกระจายแรงกดทับบริเวณศีรษะ ช่วยให้ปัญหาการปวดไมเกรนยามพักผ่อนลดน้อยลง
  • Kool Kreme Komfort หรือหมอนหนุนที่ออกแบบมารองรับศีรษะยามนอนตะแคง ด้วยการออกแบบให้หมอนมีร่องตรงกลางที่มีความนุ่มมากกว่าบริเวณสันหมอน ซึ่งทำหน้าที่เติมเต็มส่วนเว้าช่วงลำคอ อีกทั้งตำแหน่งของใบหูที่จะตรงกับร่องตรงกลางช่วยบรรเทาการกดทับบริเวณหู ทำให้อาการเจ็บปวด หรือชา ลดลง ช่วยให้การนอนในท่านอนตะแคงสบายมากยิ่งขึ้น
  • Kool Kiss Dream หมอนหนุนรุ่นสุดท้ายที่เราตั้งใจดีไซน์ให้ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ชอบนอนหงาย นอนตะแคง หรือนอนดิ้นเป็นพิเศษ หมอนดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ เราดีไซน์ให้สองฝั่งแตกต่างกัน โดยด้าน 1 บล็อคจะเหมาะสำหรับท่านอนหงาย และด้าน 3 บล็อคจะเหมาะกับท่านที่ชอบนอนตะแคงพลิกตัวไปมา โดยร่องทั้ง 2 เส้นของหมอนจะรองรับบริเวณลำคอ ศีรษะ และใบหูในแนวระนาบเส้นตรง ช่วยประคองสรีระยามนอนตะแคง อีกทั้งยังกระจายน้ำหนักและแรงกดทับที่อาจเกิดขึ้นบริเวณหูและแก้มได้

ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความเข้าใจถึงสรีระที่แตกต่างของแต่ละบุคคล Komfy จึงได้ออกแบบให้หมอนหนุนในรุ่น Kool Signature มีด้วยกัน 3 ขนาด ( S , M , L ) เพื่อให้ท่านพบกับหมอนที่มีความสูงที่เหมาะสมกับสรีระมากที่สุด พร้อมกันนี้สำหรับทุกการสั่งซื้อหมอนจาก Komfy เราของมอบแพคเกจ 365-Day Komfy Kare บริการปรับเพิ่ม – ปรับลด เส้นใยภายในหมอน ให้ท่านสามารเลือกความนุ่มแน่นของหมอนได้ตามความชอบตลอด 365 วันโดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง

สิ่งสำคัญเหนืออื่นใด Komfy เชื่อว่าการลงทุนให้กับการนอนหลับที่มีคุณภาพเป็นอีกสิ่งสำคัญ เพราะการตื่นอย่างมีความสุข คือหนึ่งในสิ่งสำคัญที่สุดของชีวิตคุณ เพื่อให้คุณได้ตื่นพร้อมความสดใส และให้คุณได้ใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญคือการเลือกเฟ้นผลิตภัณฑ์ที่มีความเหมาะสม เข้ากับรูปแบบการใช้ชีวิต และไลฟ์สไตล์การพักผ่อนให้มากที่สุด เพื่อให้แน่ใจได้ว่าการลงทุนครั้งนี้ได้ทั้งความคุ้มค่า พร้อมยังช่วยยกระดับคุณภาพการพักผ่อนที่ดีขึ้นให้แก่คุณในทุกวัน

หมอนหนุนรุ่น Kool Signature ขนาดต่าง ๆ

ไซส์ S ราคา 3,999 บาท

ไซส์ M ราคา 4,599 บาท

ไซส์ L ราคา 4,999 บาท

*แถมฟรี ปลอกหมอนใส่ใจ มีคุณสมบัติกันเปื้อนกันน้ำและกันไรฝุ่น จำนวน 1 ชิ้น สำหรับหมอนหนุนของ komfy ทุกใบ

ที่นอน นุ่ม แน่น แบบไหน ที่ถูกใจใช่เลย

ใครที่กำลังเลือกซื้อที่นอนอยู่บ้างคะ ?  𝑲𝒐𝒎𝒇𝒚 มีคำแนะนำและแนวทางในการเลือกซื้อที่นอนให้ตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุดมีเกณฑ์ 𝟒 ข้อง่าย ๆ ค่า  

1.ความชอบที่นอนนุ่ม หรือ แน่น หรือชอบแบบพอดี
ความนุ่มแน่น เน้นความรู้สึกสัมผัสที่นอนเป็นหลัก อาศัยประสบการณ์การนอนในปัจจุบัน หรือการไปนอนพักตามโรงแรม และลองตอบคำถามข้อนี้ว่าชอบที่นอนสัมผัสแบบไหน

2.น้ำหนักตัวของผู้นอน
น้ำหนักของผู้นอนแต่ละคนจะส่งผลต่อความรู้สึกของระดับนุ่มแน่นที่แตกต่างกันไป โดยทั่วไปแล้วคนที่มีน้ำหนักตัวมากมันจะชอบที่นอนที่แน่นกว่า เพราะจะรองรับสรีระได้ดีกว่าและทำให้สรีระไม่จมเกินไประหว่างนอน ในทางกลับกัน คนที่มีน้ำหนักตัวไม่เยอะมักจะชอบที่นอนที่ไปทางนุ่ม หรือนุ่มถึงแน่นปานกลางมากกว่า เพื่อความสบายและการรองรับสรีระให้รู้สึกมีความโอบรับอยู่ 

3.ท่านอน นอนหงายหรือนอนตะแคง
ท่านอนมักส่งผลต่อความสบายบนที่นอนที่มีระดับความนุ่มแน่นที่แตกต่างกันไป คนที่ชอบนอนหงายเป็นส่วนใหญ่มักจะชอบที่นอนแน่นกว่า ในขณะที่ผู้ที่ชอบนอนตะแคงจะชอบที่นอนที่มอบสัมผัสนุ่มกว่า แต่ทั้งนี้ไม่มีกฎตายตัว ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน

เพื่อให้การสื่อสารเรื่องความ นุ่ม แน่น ของที่นอนเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ง่ายขึ้น น้อง 𝑲 𝑲𝒂𝒓𝒆 ขออนุญาตนำเสนอระดับความนุ่มแน่น 𝟏-𝟏𝟎 มาให้ทุกท่านได้ดูกันว่าคุณชอบที่นอนความนุ่มแน่นระดับไหน

ระดับ 𝟏 : “นุ่มมากพิเศษ“ ร่างกายจะจมลึกลงไป แทบจะไม่มีที่นอนนุ่มระดับนี้

ระดับ 𝟐-𝟑 : “นุ่ม” ที่นอนจะจมลงมาก เหมาะสำหรับผู้ที่นอนตะแคงหรือมีน้ำหนักไม่เกิน 𝟔𝟎 กิโลกรัม

ระดับ 𝟒 : “นุ่มสบาย” มีความโอบรับกำลังดี ให้ความสัมผัสนุ่ม  ร่างกายไม่จมมากเกินไป 

ระดับ 𝟓 : “นุ่มแน่นสมดุล” มีความสมดุลระหว่างความนุ่มในการโอบรับและการรองรับที่นุ่มแน่นกำลังดี 

ระดับ 𝟔 : “แน่นสบาย” ไม่ยุบตัวตามสรีระ สัมผัสแน่นแต่ยังคงความสบาย

ระดับ 𝟕-𝟖 : “แน่นไม่ยุบตัว” เหมาะสำหรับผู้ที่มีน้ำหนักตัวประมาณ 𝟏𝟎𝟓 กิโลกรัมขึ้นไป 

ระดับ 𝟗-𝟏𝟎 : “แน่นเป็นพิเศษ” แทบจะไม่มีที่นอนแน่นระดับนี้เพราะไม่โอบรับสรีระ 

ซึ่งระดับความนุ่มแน่นที่นิยมกันจะอยู่ในช่วงของระดับที่ 𝟒-𝟖 ที่มีความแน่นแต่ยังมอบความสบายให้กับการนอนหลับได้อย่างมีคุณภาพ สิ่งสำคัญคือต้องสมดุลระหว่างความนุ่มสบาย และการรองรับสรีระ เพื่อยังช่วยรักษารูปทรงของกระดูกสันหลังให้อยู่ในระนาบที่เหมาะสม ป้องกันอาการปวดหลังที่อาจตามมาจากการใช้งานในระยะยาว

4.ผู้ที่นอนร่วมที่นอนเดียวกัน

หากคุณต้องเลือกที่นอนสำหรับครอบครัวไม่ว่าจะนอนกับคนรัก หรือลูกน้อย จะต้องพิจารณาทั้งความชอบ น้ำหนัก ท่านอนของผู้ร่วมนอนด้วย 𝑲𝒐𝒎𝒇𝒚 แนะนำว่าควรเลือกที่นอนที่ไม่นุ่มหรือแน่นเกินไป ควรอยู่ในระดับปานกลาง จะตอบโจทย์ได้ดีที่สุด  

กล่าวยาวมาถึงตรงนี้ หลายท่านคงมีคำถามว่าที่นอนของ 𝑲𝒐𝒎𝒇𝒚 แต่ละรุ่นมีความนุ่มแน่นแตกต่างกันอย่างไรบ้าง วันนี้น้อง 𝑲 𝑲𝒂𝒓𝒆 มาแนะนำที่นอนที่มีให้เลือกถึง 𝟓 รุ่น โดยไล่ระดับความนุ่มแน่นให้ทุกท่านพิจารณาค่า 

.

☁️𝑲𝒍𝒐𝒖𝒅 𝑭𝒓𝒆𝒔𝒄𝒐 มอบความ “นุ่มสบาย” ระดับ 𝟒 ที่มาพร้อมสัมผัสเย็นสบาย เหมือนนอนอยู่บนก้อนเมฆตลอดคืน 

☁️𝑲𝒍𝒐𝒖𝒅 𝑲𝒐𝒔𝒎𝒐 มอบความ “นุ่มแน่นสมดุล” ระดับ 𝟓 ที่นอนที่มาพร้อม 𝑻𝒐𝒑𝒑𝒆𝒓 ในตัว พร้อมผ้าหุ้ม 𝑻𝒆𝒏𝒄𝒆𝒍 ที่ทอจากเส้นใยธรรมชาติ อ่อนโยนละมุนพิเศษทุกสัมผัส

☁️𝑲𝒍𝒐𝒖𝒅 𝑼𝒍𝒕𝒊𝒎𝒐 มอบความ “แน่นสบาย” ระดับ 𝟔  ที่นอนที่รังสรรค์ด้วยวัสดุชั้นเลิศ คุณภาพพรีเมียมที่มาพร้อมชั้นพ็อกเก็ตสปริงถึงสองชั้น ให้การรองรับเหนือระดับ

☁️𝑲𝒍𝒐𝒖𝒅 𝑺𝒆𝒓𝒈𝒊𝒐 มอบความ “แน่นไม่ยุบตัว” ระดับ 𝟕-𝟖 เหมาะมากสำหรับผู้ที่น้ำหนักเยอะ หรือมีอาการปวดหลัง รองรับด้วยชั้นยางพาราพรีเมียม 𝟏𝟎𝟎% 

☁️𝑲𝒍𝒐𝒖𝒅 𝑬𝒍𝒆𝒎𝒐 มอบความ “แน่นไม่ยุบตัว” ระดับ 𝟕-𝟖 ที่ยังมอบสัมผัสความสบายด้วยท็อปเปอร์ในตัว  𝑬𝒖𝒓𝒐-𝑷𝒊𝒍𝒍𝒐𝒘 𝑻𝒐𝒑 𝑫𝒆𝒔𝒊𝒈𝒏 ที่ช่วยโอบรับสรีระได้อย่างดีเยี่ยม

.

ทั้งนี้ระดับความนุ่มแน่นถือเป็นความชอบเฉพาะตัวบุคคล 𝑲𝒐𝒎𝒇𝒚  เชื่อว่าไม่มีเกณฑ์หรือปัจจัยใดเทียบได้กับประสบการณ์หรือการทดลองนอนจริง ๆ เพราะที่นอนหนึ่งหลังจะอยู่กับคุณไปอีกนาน เราอยากให้ก่อนซื้อที่นอนคุณได้ทดลองนอนที่นอนรุ่นที่คุณชอบให้นานที่สุด เพื่อพิจารณาว่าตนเองชอบความนุ่มแน่นระดับใด  และนำมาประกอบการตัดสินใจร่วมกับเทคโนโลยีของที่นอนแต่ละรุ่นที่ออกแบบมาให้รองรับสรีระได้อย่างตรงจุด 

.

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมทักหาน้อง 𝑲 𝑲𝒂𝒓𝒆 ได้เลย

หรือคลิกลิงค์ 👉https://linktr.ee/Komfy_since1989

หมอน U ครบจบในใบเดียว

หลายคนเมื่อเดินมาในร้าน Komfy แล้วอาจแปลกใจว่าทำไมร้านนี้ถึงมีหมอนหน้าตาแปลก ๆ เยอะจังเลย นักช้อปหน้าใหม่อย่างเราจะเริ่มจากหมอนตัวไหนดีนะ ที่คุ้มค่า ใช้งานได้หลากหลาย ตอบโจทย์ทุกกิจกรรม

วันนี้ Komfy ขอแนะนำหมอน Kool Komfort Klam หรือที่หลายๆคนเรียกว่าหมอนรูปตัว U เป็นหมอนที่ควรค่าที่อยากให้มีติดบ้าน ด้วยดีไซน์รูปทรงของหมอน ที่เราคิดค้นและออกแบบให้ตัวหมอนมีขนาดใหญ่ เพื่อรองรับทุกการใช้งาน ไม่ว่าคุณจะนั่งพิง หรือหากจะใช้หนุนก็นอนหลับได้อย่างสบาย และหมอนรุ่นนี้ยังเหมาะและตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ชอบนอนตะแคงอีกด้วย เพราะตัวหมอนมีร่องพิเศษตรงกลางตัวหมอนเพื่อช่วยรองรับศีรษะ และบริเวณใบหู ลดการกดทับ ทำให้ไม่เจ็บหูเวลานอนตะแคง ด้วยดีไซน์และความหนาของสันขอบหมอนสามารถรองรับช่วงคอ และบริเวณท้ายทอได้อย่างพอดี จึงช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยคอ และลดอาการปวดไมเกรนได้อีกด้วย แค่นั้นยังไม่พอ หมอนตัว U ของเรายังมีแขนที่ยื่นออกมาทั้ง 2 ข้าง ที่โอบรับรอบลำตัวและสามารถใช้เป็นหมอนข้างกอดได้อย่างสบายและพอดีอีกด้วย 

หรือบางท่านที่เจอปัญหานั่งทำงานที่โซฟาแล้วปวดเมื่อยบริเวณหลัง หรือชอบนั่งดูซีรี่ย์บนที่นอนแล้วก็ไม่สบาย หมอน Kool Komfort Kalm หรือหมอนตัว U ของเราก็ช่วยแก้ปัญหาได้อย่างสบาย ตัวหมอนสามารถรองรับแผ่นหลังได้อย่างพอเหมาะให้หลังคุณได้ผ่อนคลายและรู้สึกสบายยิ่งขึ้น ส่วนแขนทั้ง 2 ข้างของหมอนยังสามารถช่วยรองรับแขน ข้อศอก ได้อย่างพอดี หรือสามารถเอาแขนของหมอนมาซ้อนกันนำโน๊ตบุ๊คมาวางทำงานไปด้วยก็ได้ เรียกได้ว่าเป็นหมอนอเนกประสงค์มากๆ ช่วยให้การนั่งของคุณรื่นรมย์ไปอีกระดับ

เห็นหมอนใบใหญ่ขนาดนี้แต่ยิ่งสัมผัสยิ่งสบายไม่ร้อนอึดอัด เพราะเราใส่ใจเลือกวัสดุที่พรีเมียม คุณภาพสูง เน้นความสบายเป็นหลักอย่างผ้าหุ้มลิขสิทธิ์เฉพาะจาก Komfy ผ้า 𝑲𝟐𝑲𝒐𝒐𝒍 ที่นำนวัตกรรมการออกแบบจากประเทศอิตาลีมาใช้ จึงมีคุณสมบัติพิเศษมอบความเย็นสบาย นุ่มลื่นทุกสัมผัส อีกทั้งบริเวณสันขอบหมอนเรายังใช้ผ้าตาข่าย Air Kool ที่ช่วยระบายอากาศ ลดความอับชื้น คลายความร้อนยามใช้งาน และยิ่งไปกว่านั้นภายในเราเลือกใช้เส้นใย  Komfy Downy เส้นใยที่มีความละเอียดสูงกว่าเส้นใยทั่วไปถึง 15 เท่า ช่วยรองรับและโอบรับสรีระได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมความนุ่มสบาย

ด้วยความใส่ใจและอยากให้คุณพบหมอนที่ใช่ Komfy ได้มีโปรแกรม 𝟑𝟔𝟓-𝐃𝐚𝐲 𝐊𝐨𝐦𝐟𝐲 𝐊𝐚𝐫𝐞 บริการปรับใยตามความต้องการของคุณตลอด 𝟑𝟔𝟓 วัน ไม่จำกัดจำนวนครั้ง โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับใย ซึ่งการปรับใยแต่ละครั้งเราให้ความสำคัญในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การปูใย นวดใย การคำนวณน้ำหนักของใยให้เหมาะสม ตลอดจนไปถึงขั้นตอนการเย็บเก็บหมอนใบโปรดของคุณ เราดูแลอย่างประณีตและพิถีพิถันในทุกๆรายละเอียด เพื่อให้คุณมั่นใจว่าหมอนทุกใบที่ผ่านการดูแลจากเราจะมอบความนุ่มแน่นสบายตรงตามความต้องการของคุณตลอด 𝟑𝟔𝟓 วันอย่างแน่นอน

และทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่ทำไมหมอน Kool Komfort Klam หรือหมอนรูปตัว U ควรค่าแก่การมีไว้ที่บ้าน เพราะเรียกได้ว่าเป็นหมอนที่ตอบโจทย์ครบจบในใบเดียว 

หมอน Kool Komfort Kalm  ราคา 7,999 บาท

เคล็ดลับจากนักกายภาพ นอนตะแคงลดนอนกรน

หลายท่านประสบปัญหากับการนอนกรนใช่ไหมคะ ไม่ว่าจะเป็นการนอนกรนด้วยตนเอง หรือคนข้างกายนอนกรน ก็ล้วนส่งผลกระทบต่อคุณภาพการนอนทั้งสิ้น วันนี้ Komfy ได้ไปหาคำตอบถึงสาเหตุและท่านอนที่จะช่วยบรรเทาอาการนอนกรนจากนักกายภาพผู้เชี่ยวชาญให้ทุกท่านได้ทราบกันค่ะ

ที่มาของการนอนกรน

สำหรับที่มาของการนอนกรนนั้น ส่วนใหญ่เกิดจากทางเดินหายใจส่วนบนตีบแคบ อันเป็นผลมาจากการที่กล้ามเนื้อในช่องปากหย่อนลงมาปิดกั้นช่องลม หรืออาจมีอีกหลายปัจจัยมาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นไขมัน ก้อนเนื้อ ที่หย่อนลงมาปิดกั้นทางเดินหายใจ ส่งผลให้เกิดอาการนอนกรน หรือจะเป็นเรื่องของกรรมพันธุ์ก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน

อันตรายจากการนอนกรน

ต้องบอกก่อนว่าถึงแม้ว่าการนอนกรนจะดูเป็นเรื่องปกติที่พบเจอได้ทั่วไป แต่ล้วนส่งผลเสียต่อร่างกายได้เช่นกัน ในหลายท่านการนอนกรนส่งผลให้ร่างกายอาจได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ หรือหากอาการรุนแรงกว่านั้นอาจส่งผลให้เกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea) ได้ในอนาคต ซึ่งผลทางตรงเลยคือเราจะมีคุณภาพการนอนหลับที่ไม่ดี หรือนอนหลับพักผ่อนได้ไม่ต่อเนื่องและเพียงพอนั่นเอง

ท่านอนที่แนะนำเพื่อช่วยบรรเทาอาการนอนกรน

สำหรับการแก้ปัญหาเบื้องต้นสามารถแก้ง่าย ๆ ได้ด้วยการปรับเปลี่ยนท่านอน โดยท่านอนที่แนะนำเป็นท่านอนตะแคง เพื่อช่วยบรรเทาอาการนอนกรน โดยการนอนตะแคงนั้นจะลดโอกาสการหย่อนคล้อยของกล้ามเนื้อในช่องลมที่จะลงมาปิดกั้นทางเดินหายใจ เนื่องจากการตกลงมาตามแรงโน้มถ่วงของกล้ามเนื้อ แต่ถ้าผู้นอนมีก้อนเนื้อหรือก้อนไขมันไปอุดกลั้นบริเวณทางเดินหายใจ ท่านี้อาจจะช่วยได้ไม่เพียงพอค่ะ

ท่านอนตะแคงควรนอนตะแคงซ้ายหรือตะแคงขวา

สำหรับท่านอนตะแคงนั้น ถือ เป็นท่านอนที่ดีอีกท่าหนึ่งที่คนนิยมกัน เป็นท่าที่นอนสบายและสามารถช่วยลดอาการปวดหลังได้หากเรานอนอย่างถูกต้อง แต่หลายท่านยังมีคำถามว่าการนอนตะแคงที่ถูกต้องนั้นจำเป็นต้องนอนตะแคงข้างใดจึงจะเหมาะสมที่สุด คนเราไม่ควรนอนตะแคงซ้ายเพราะอวัยวะภายในจะกดทับหัวใจจริงหรือไม่

จากคำแนะนำโดยนักกายภาพผู้เชี่ยวชาญ ด้ให้คำอธิบายเพิ่มเติมไว้ดังนี้ สำหรับบุคคลทั่วไปสามารถนอนตะแคงได้ทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวา เพราะโครงสร้างการวางตัวของหัวใจ จะอยู่กลางช่วงอกค่อนไปทางซ้ายเล็กน้อย อีกทั้งร่างกายมีซี่โครงที่ช่วยป้องกันห้วใจให้ปลอดภัยลดความเสี่ยงจากการกดทับ


ยกเว้นเสียแต่ในบุคคลที่มีเงื่อนไขเรื่องโรคหัวใจหรือมีประวัติการผ่าตัดมา จะส่งผลให้ปอดสามารถเพิ่มแรงดันช่วงอก ซึ่งสามารถไปกดทับหัวใจได้ ทั้งนี้ท่านอนดังกล่าวต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้ทำการรักษาด้วย

หมอนที่รองรับท่านอนตะแคง

การนอนตะแคงที่ดีนั้น ควรนอนตะแคงโดยมีหมอนที่รองรับทั้งบริเวณศรีษะและลำตัวให้พอดีกับสรีระของแต่ละบุคคล

ในส่วนของหมอนหนุนที่ใช้ ไม่ควรเตี้ยจนเกินไปเพราะจะทำให้ปวดต้นคอได้ ควรใช้หมอนหนุนที่เมื่อนอนตะแคงแล้วศีรษะอยู่ระดับเดียวกับลำตัว หรือกระดูกสันหลังส่วนคออยู่ระดับเดียวกับกระดูกสันหลังส่วนอกและส่วนเอว

สำหรับหมอนข้าง ควรเป็นหมอนข้างที่มีขนาดยาวพอสมควร ให้ซัพพอร์ตตรงช่วงบริเวณแขนยามเรากอดก่าย ตัวหมอนโค้งเข้ารับกับสรีระ รองรับบริเวณหัวเข่าและเท้า ช่วยลดการบิดตัวของช่วงสะโพก จะช่วยทำให้การนอนตะแคงสบายมากยิ่งขึ้น

หมอน Komfy ที่ตอบโจทย์สำหรับคนนอนตะแคง

หมอนหนุน แนะนำเป็น รุ่น Kool Kreme Komfort ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับท่านอนตะแคงโดยเฉพาะ ด้วยการออกแบบให้บริเวณตรงกลางหมอนเป็นร่องที่นุ่มเป็นพิเศษช่วยโอบรับสรีระและคลายแรงกดทับบริเวณใบหู ช่วยให้ไม่เจ็บหู และหูไม่อื้อยามนอนหลับพักผ่อน อีกทั้งบริเวณสันขอบด้านนอกที่มีความแน่นเพื่อช่วยรองรับบริเวณลำคอให้อยู่ในท่าที่เหมาะสม โดยมีให้เลือก 3 ขนาดด้วยกัน S M L  เพื่อตอบโจทย์ทุกความแตกต่างของสรีระ ราคาเริ่มต้นที่ 3,999 – 4,999 บาท

หมอนข้าง  Komfort Hug (J Shape) หมอนข้างที่เราตั้งใจออกแบบมาเพื่อเอาใจคนนอนตะแคงโดยเฉพาะ การรันตีความใส่ใจด้วยรางวัลจากเวที Design Excellence Award ปี 2019 ด้วยการออกแบบให้หมอนโอบรับสรีระทั้งส่วนบนและส่วนล่าง ช่วยลดแรงกดทับบริเวณหัวเข่าและเท้า สันด้านในของหมอนออกแบบให้มีความหนาน้อยกว่าสันด้านนอกเพื่อง่ายต่อการพาดของหัวเข่าและรองรับบริเวณช่วงท้องได้อย่างสบาย ไม่อึดอัด โดยมีผ้าหุ้มให้เลือกถึง 2 รุ่นด้วยกันคือ ผ้าหุ้ม DovasilQ มอบสัมผัสนุ่มพิเศษปกป้องไรฝุ่น มูลค่า 4,999 บาท  และผ้าหุ้ม K2 Kool ให้สัมผัสเย็นสบาย ระบายอากาศเป็นอย่างดี มูลค่า 6,999 บาท

Topper ที่นุ่มที่สุดจาก Komfy

Topper ยี่ห้อไหนดี เป็นคำถามคลาสสิคสำหรับใครที่กำลังมองหา Topper ดีๆสักหลัง เราอยากให้คุณได้ลองมาทำความรู้จักกับ Topper สุดนุ่มจาก Komfy

ท็อปเปอร์ (Topper) เบาะรองนอน หรือแผ่นรองที่นอน ที่ปัจจุบันเริ่มเป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง แถมมีจัดจำหน่ายหลากหลายยี่ห้อ แต่รู้หรือไม่ว่าการใช้งานท็อปเปอร์ที่เหมาะสมนั้นเหมาะกับการใช้งานแบบใด 

คุณสมบัติของท็อปเปอร์

สำหรับตัวท็อปเปอร์นั้น ถูกออกแบบมาเพื่อ วางซ้อนทับที่นอนอีกชั้นหนึ่ง เพื่อเพิ่มความนุ่มสบายให้มากขึ้น ช่วยกระจายน้ำหนักตัวของผู้ใช้งาน บรรเทาอาการปวดเมื่อย โดยราคาของท็อปเปอร์จะขึ้นอยู่กับวัสดุที่นำมาใช้ซึ่งมีความหลากหลายแตกต่างกันไปตั้งแต่วัสดุจากธรรมชาติ หรือวัสดุสังเคราะห์

เรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับท็อปเปอร์

นื่องจากลักษณะและวัสดุที่ใช้ในการผลิตท็อปเปอร์มีความใกล้เคียงกับที่นอนมาก จึงอาจสร้างความเข้าใจผิดได้ว่าสามารถใช้งานทดแทนกันได้ แต่ความเป็นจริงนั้นท็อปเปอร์ค่อนข้างจะมีความบางมากกว่าที่นอน และไม่ได้ออกแบบมาให้ใช้เป็นที่นอนแยกต่างหาก มากไปกว่านั้นวัสดุหรือชั้นรองรับต่าง ๆ ของท็อปเปอร์ก็จะเป็นเพียงชั้นบาง ๆ ไม่สามารถรองรับร่างกายเป็นเวลานาน ๆ ได้เหมือนที่นอน ดังนั้นหากเราเอาท็อปเปอร์ไปใช้งานเป็นที่นอนนาน ๆ ก็จะมีปัญหานอนไม่สบาย ตื่นมาปวดหลัง ปวดตัว ได้นั่นเอง

ประโยชน์ของท็อปเปอร์

หากใครกำลังประสบปัญหาที่นอนแน่นหรือแข็งเกินไป ทำให้นอนไม่สบายหรือปวดหลัง สามารถแก้ปัญหาเบื้องต้นได้ง่าย ๆ โดยการหาท็อปเปอร์ที่มีความหนาและนุ่มตามชอบมาวางด้านบนที่นอนหลังที่ใช้งาน จะช่วยเพิ่มความนุ่มสบายให้กับร่างกายยามพักผ่อนได้ อีกทั้งคุณสมบัติของท็อปเปอร์ที่เข้ามาช่วยกระจายน้ำหนักและแรงกดทับที่เกิดขึ้นยามนอน ทำให้การหมุนเวียนของโลหิตดีขึ้น สามารถรองรับสรีระของร่างกายได้อย่างสมดุล ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า โดยท็อปเปอร์จะมีความยืดหยุ่นเป็นพิเศษ จึงสามารถสลายแรงกดทับ และผ่อนคลายความตึงเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

มากไปกว่านั้น ด้วยขนาดและน้ำหนักที่เบากว่าของท็อปเปอร์ ทำให้เราสามารถพับเก็บ เคลื่อนย้าย ไปยังที่ต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย พร้อมทั้งช่วยป้องกันสิ่งสกปรกที่จะตกลงไปยังที่นอน สามารถทำความสะอาดได้ง่ายกว่าที่นอนทั้งหลัง พร้อมกันนี้ท็อปเปอร์ยังช่วยป้องกันการยุบตัวของที่นอนที่จะเกิดจากแรงกดทับยามใช้งานเป็นเวลานานได้อีกด้วย

บ้านแบบไหนควรมีท็อปเปอร์

ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลายของท็อปเปอร์ จึงกลายเป็นไอเท็มที่บ้านทุกหลังต้องมี ไม่ว่าจะคนที่ประสบปัญหาที่นอนแน่นเกินไปต้องการท็อปเปอร์มาเพิ่มความนุ่มสบายให้แก่ที่นอนของคุณ หรือท่านใดที่ชอบนอนเล่นยามดูโทรทัศน์ หรือปูพื้นรองนั่งในห้องนั่งเล่น ท็อปเปอร์ก็สามารถตอบโจทย์ความต้องการนี้ได้ หรือบ้านหลังไหนมีพื้นที่จำกัด แต่มีเหตุจำเป็นที่แขกต้องมาค้างที่บ้าน ก็สามารถนำท็อปเปอร์มาปูรับรองแขกแทนที่นอนได้เช่นกัน

Kool Kloud Downy Topper

ท็อปเปอร์ที่รวมทุกคุณสมบัติสุดพิเศษจาก Komfy เริ่มตั้งแต่สัมผัสนุ่มสบายจากเส้นใย Komfy Downy ที่สุดแห่งความละเอียดของเส้นใยกว่า 30 เท่าของเส้นใยทั่วไป มาพร้อมกับความหนาที่กำลังพอดีขนาด 4 นิ้ว เพื่อช่วยรองรับสรีระ และมอบสัมผัสนุ่มสบายดั่งนอนอยู่บนก้อนเมฆ และความพิเศษของท็อปเปอร์รุ่นนี้คือยิ่งนอนยิ่งเย็นสบาย  ด้วยผ้าหุ้ม K2Kool ผ้าหุ้มนวัตกรรมพิเศษของ Komfy ที่เป็นการนำเอาเทคโนโลยีการทอจากประเทศอิตาลีมาผสมผสานกับฝีมือช่างตัดเย็บที่มีความชำนาญ เลยได้ผ้าหุ้มสุดพิเศษที่มีลายผ้าเป็นเอกลักษณ์  และท้ายที่สุดคือผ้าตาข่าย Air Kool ที่หุ้มรอบข้างของท็อปเปอร์ ด้วยคุณสมบัติในการช่วยระบายอากาศเป็นพิเศษ แถมยังช่วยรักษาทรงของท็อปเปอร์ให้มีความทนทานยิ่งขึ้นในเวลาเดียวกัน และนี่คือท็อปเปอร์ ที่ Komfy อยากแนะนำให้คุณได้ลอง

Kool Kloud Downy Topper ขนาด 3.5 ฟุต ราคา 9,999 บาท

Kool Kloud Downy Topper ขนาด 5 ฟุต ราคา 11,999 บาท

Kool Kloud Downy Topper ขนาด 6 ฟุต ราคา 12,999 บาท

ลดอาการนอนกรนด้วยท่านอนตะแคง

นอนตะแคงดียังไง? 

 ต้องบอกก่อนเลยว่าท่านอนนี้เป็นท่านอนที่ดีอีกท่าหนึ่งและเป็นท่าที่คนนิยมกันเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นท่าที่นอนสบายสามารถช่วยลดการนอนกรนและลดอาการปวดหลังได้ สำหรับท่านที่ประสบปัญหาปวดหลังจากท่านอนหงาย เนื่องจากที่นอนยวบเกินไป หรือที่นอนที่มีลักษณะเป็นแอ่ง ซึ่งสามารถปรับท่านอนเป็นท่านอนตะแคงโดยมีหมอนข้างไว้กอดและพาดช่วงขา จะเป็นการจัดท่าที่ถูกต้องทำให้กระดูกสันหลังตรง ส่วนหมอนหนุนที่ใช้ควรซัพพอร์ตช่วงคอและรองรับสรีระได้ดี ไม่ควรเตี้ยเกินไปหรือสูงเกินไป เพราะจะทำให้เกิดอาการปวดต้นคอได้ โดยให้ศีรษะอยู่ระดับเดียวกับลำตัว หรือกระดูกสันหลังส่วนคออยู่ในระดับเดียวกับกระดูกสันหลัง จะเป็นการจัดท่านอนตะแคงที่ถูกต้อง และยังช่วงลดปัญหาอาการปวดเมื่อยจากการนอนในท่าที่ผิดได้อีกด้วย 

สาเหตุหลักของการนอนกรน

                  การนอนกรนนั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ การนอนกรนเกิดจากระบบทางเดินหายใจส่วนบนตีบและแคบ จากการวิจัยพบว่าอาการนอนกรนมักเกิดขึ้นในขณะที่คนเรานอนหงาย และเกิดขึ้นในขณะที่คนเรานอนหลับสนิท เนื่องจากในขณะที่เรานอนหงาย ออแกนและอวัยวะต่าง ๆ จะไหลมารวมกันที่หน้าอกซึ่งจะเกิดการกดทับทางเดินหายใจ ทำให้กล้ามเนื้อในช่องปากและคอเกิดการผ่อนคลายหรือหย่อนตัวลงมาปิดกั้นช่องทางเดินหายใจ เป็นผลให้ลมหายใจไม่สามารถผ่านไปยังหลอดลมและปอดได้อย่างสะดวก ส่งผลให้ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ เพราะช่อลมถูกปิดกั้นจึงเป็นสาเหตุให้เกิดเสียงกรนขึ้น อีกทั้งอาการนอนกรนมักจะพบในคนที่มีน้ำหนักเยอะหรืออาจเกิดจากไขมันพอกตรงส่วนคอมากเกินไป 

การนอนตะแคงสามารถช่วยลดอาการนอนกรนได้อย่างไร?

                  ท่านอนตะแคงนั้นจะไม่เหมือนกับท่านอนหงาย ซึ่งไม่ทำให้ออแกนและอวัยวะมากดทับช่องทางเดินหายใจ ช่วยทำให้เรารับอ๊อกซิเจนเพียงพอและทำให้หายใจได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้การนอนในท่านี้เพียงอย่างเดียวโดยปราศจากหมอนที่ช่วยซัพพอร์ตสรีระ จะเป็นสาเหตุของการปวดหลังในระยะยาวได้ ท่านอนตะแคงที่ถูกต้องขอแนะนำว่าให้หาหมอนข้างสักใบไว้กอด และนำอีกใบมาหนุนหลังไว้ เพื่อบังคับให้สรีระอยู่ในท่าที่เหมาะสม รวมถึงการใช้หมอนหนุนที่ตอบโจทย์กับสรีระที่แตกต่างของแต่ละบุคคลโดยเฉพาะ จะช่วยจัดท่าทางได้ดีขึ้น และยังช่วยให้การหายใจเป็นไปอย่างสะดวก สามารถช่วยลดการนอนกรนได้ เหมาะกับผู้ที่มีน้ำหนักตัวเยอะ รวมถึงผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ และยังเหมาะสำหรับหญิงมีครรภ์อีกด้วย 

ควรนอนตะแคงข้างไหนดี ?

                ท่านอนที่ดีที่สุดคือท่าที่เรารู้สึกสบาย หลายคนอาจสงสัยว่าควรนอนตะแคงข้างไหนดี ซึ่งคำตอบคือไม่ว่าจะเป็นการนอนตะแคงซ้ายหรือนอนตะแคงขวา ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจและความชอบของแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะนอนหันฝั่งใด หากได้รับการจัดท่านอนให้ถูกต้องตามสรีระจะสามารถลดอาการปวดเมื่อยได้ 

ท่านอนตะแคงที่ถูกต้องนอนอย่างไร ?

               การนอนนั้น หากนอนผิดลักษณะและเป็นการนอนโดยที่ไม่มีหมอนมาซัพพอร์ตท่านอนและสรีระ สามารถเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการปวดเมื่อย  และส่งผลเสียต่อสุขภาพ ร่างกาย และการนอนในระยะยาวได้ ดังนั้นท่านอนที่ถูกต้องแนะนำให้มีหมอนช่วยจัดสรีระท่านอนและช่วยซัพพอร์ตสรีระในการนอน ซึ่งจะช่วยให้กระดูกสันหลังตรง 

               การใช้หมอนมาซัพพอร์ตท่านอนตะแคงนั้นแนะนำให้มีหมอนทั้งหมด 3 ใบ ดังนี้

  • ใบแรก แนะนำเป็นหมอนหนุนที่สามารถรองรับศีรษะและซัพพอร์ตช่วงคอได้ดี พอดีกับสรีระ ไม่สูงเกินไปหรือต่ำเกินไป 
  • ใบที่สอง แนะนำเป็นหมอนข้างที่สามารถช่วยซัพพอร์ตการนอนโดยใช้โอบกอดและพาดขาได้ ท่านอนดังกล่าวจะช่วยทำให้กระดูกสันหลังและช่วงสะโพกตรงกัน ซึ่งจะช่วยซัพพอร์ตช่วงขาและสะโพก
  • ใบที่สาม แนะนำเป็นหมอนข้างอีกหนึ่งใบมาหนุนหลัง ในท่านี้จะสามารถซัพพอร์ตช่วงหลัง ช่วยให้กระดูกสันหลังตรง ละยังช่วยล๊อคท่าให้ถูกต้องอีกด้วย  

               อย่างไรก็ตามการที่มีหมอนมาซัพพอร์ตนั้นควรเลือกหมอนให้เข้ากับสรีระ มีความนุ่มแน่นที่พอดี หากตัวหมอนมีความสูงหรือต่ำเกินไป นุ่มหรือแน่นเกินไป ก็สามารถเป็นสาเหตุของอาการปวดเมื่อยได้เช่นกัน ทั้งนี้การเลือกหมอนให้เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับสรีระและความชอบของแต่ละบุคคล

  • หมอนหนุน Kool Series รุ่น Kool Kreme มีให้เลือกทั้งหมด 3 ไซส์ S M L ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับท่านอนตะแคงโดยเฉพาะ ดีไซน์พิเศษลดการกดทับของใบหูในขณะนอน และยังซัพพอร์ตช่วงคอได้ดีเยี่ยม
  • หมอนข้างรูปตัว J หรือ Kool Komfort Hug ดีไซน์พิเศษเพื่อคนที่รักการนอนตะแคงโดยเฉพาะ หมอนที่มีรูปทรงพิเศษโค้งรับเข้ากับสรีระท่านอน ช่วยซัพพอร์ตขาและสะโพกได้ดี จะพลิกไปทางไหนก็ซัพพอร์ตทั้งสิ้น 
  • หมอนข้าง Kosy Kuddles หมอนข้างยาว 9×40 นิ้ว ดีไซน์พิเศษทรงสี่เหลี่ยมไม่กลิ้งตกเตียง ช่วยซัพพอร์ตและรองรับส่วนหลังได้อย่างพอดี

ทั้งนี้การจัดเตรียมเครื่องนอนที่นอนแล้วสบาย หมอนสูงพอดีกับสรีระ ฟูกที่มีความนุ่มแน่นพอดี จะช่วยรองรับสรีระของเรา ทำให้การนอนหลับเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยให้ร่างกายได้รับการพักผ่อนเต็มที่

ไม่ต้องเป็นเกาต์ก็ปวดเข่าได้

อาการปวดเข่าตอนกลางคืนคือการที่ร่างกายเคลื่อนไหวน้อยกว่าตอนกลางวัน เนื่องจากในตอนกลางวันมีการทำกิจกรรมต่าง ๆ ทำให้เกิดการหล่อลื่นและยืดหยุ่นของข้อเข่า อีกทั้งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisal) อันเป็นฮอร์โมนที่เข้ามาช่วยบรรเทาอาการอักเสบบริเวณหัวเข่าจะลดปริมาณการผลิตลงในเวลากลางคืน

สาเหตุของอาการปวดเข่า

1.โรคข้อเข่าเสื่อม (Knee Osteoarthritis)

สามารถพบได้ในทุกช่วงวัย มีสาเหตุมาจากกระดูกอ่อนบริเวณเข่าเสื่อมตามวัย อาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา อาการจากโรครูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis) เป็นต้น

2.อาการปวดเข่าบริเวณกระดูกสะบ้า (Patellofemaral Pain Syndrome)

เป็นอาการปวดบริเวณด้านหน้าของกระดูกข้อเข่าที่เชื่อมต่อกับกระดูกต้นขา พบมากในกลุ่มนักวิ่ง นักกระโดด หรือผู้ที่ออกกำลังกายแล้วเกิดการกระแทกบริเวณหัวเข่าอย่างหนัก 

3.ถุงน้ำหล่อลื่นบริเวณข้อต่ออักเสบ (Bursitis)

เป็นถุงของเหลวหล่อลื่นที่ช่วยลดการเสียดสีและกระแทกบริเวณ ไหล่ สะโพก และเข่า เกิดจากการที่เรามีพฤติกรรมอยู่ในท่ากดทับเป็นเวลานาน เช่น การสควอช การคุกเข่านาน ๆ เป็นต้น

4.เอ็นข้อพับเข่าอักเสบ (Patellar Tendinitis)

มักพบในผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ เกิดจากการใช้เข่าด้วยท่าเดิมซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน หรือได้รับแรงกระแทกบริเวณหัวเข่าอย่างเฉียบพลัน ทำให้เกิดอาการเจ็บเข่าด้านใน หรือกลุ่มผู้สูงอายุก็พบอาการของโรคได้เป็นจำนวนมากเช่นกัน เนื่องจากข้อเข่าเสื่อมสภาพลง ขาดความยืดหยุ่นนั้นเอง

5.น้ำหนักตัวที่มากขึ้น

เข่าคืออวัยวะในร่างกายที่ทำงานหนักกว่าอวัยวะอื่นๆ 4-5 เท่า เนื่องจากกิจกรรมในชีวิตประจำวันเราเกิดการเคลื่อนไหวตลอดเวลา ดังนั้นน้ำหนักตัวที่มากขึ้นจึงส่งผลต่อการทำงานของเข่าที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย เพราะต้องรองรับน้ำหนักจากร่างกายขณะทำกิจกรรมไม่ว่าจะเป็นการเดิน วิ่ง นั่ง หรือยืนนาน ๆ ล้วนส่งผลกระทบให้กับเข่าโดยตรง

วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นด้วยตนเอง

หากอาการเข่าบวมและปวดเข่าตอนกลางคืนไม่รุนแรงมาก เราสามารถรักษาอาการนั้นด้วยตนเองได้เบื้องต้น เริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันเป็นอันดับแรก การควบคุมน้ำหนักไม่ให้มากเกินไป เพื่อช่วยลดการทำงานของข้อเข่า หลีกเลี่ยงการนั่งในท่าที่กดทับเป็นเวลานาน เช่น นั่งยอง ๆ นั่งสมาธิ หรือการยืนบนรองเท้าส้นสูงเป็นเวลานาน หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ส่งแรงกระแทกไปสู่เข่า เช่น การกระโดด วิ่ง ปีนเขา เป็นการออกกำลังกายที่เกิดแรงกระแทกต่ำ ได้แก่ การปั่นจักรยาน การว่ายน้ำ 

นอกจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันแล้ว การแก้ปัญหาโดยมีอุปกรณ์เสริมเข้ามาเกี่ยวข้องก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยบรรเทาอาการเข่าบวมและปวดเข่าได้เช่นกัน ทั้งยังสามารถทำได้ง่ายอีกด้วย เช่น

1.การประคบร้อนและเย็น

การประคบนั้นมีทั้งร้อนและเย็น โดยการประคบร้อนจะช่วยบรรเทาอาการปวดหรืออักเสบเรื้อรังและอาการตึงบริเวณข้อ ส่วนการประคบเย็นจะช่วยแก้อาการบาดเจ็บแบบเฉียบพลัน

2.การนอนโดยใช้หมอนรองบริเวณขา

วิธีแก้ปัญหาด้วยการนำหมอนเข้ามารองขาเวลานอนเป็นวิธีการที่ง่ายและช่วยให้คุณภาพการนอนของเราดีขึ้น โดยท่าทางการนอนแบ่งออกเป็นท่านอนหงายและท่านอนตะแคง ซึ่งการนำหมอนเข้ามาช่วยก็มีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันดังนี้

ท่านอนหงาย ให้เรานอนราบไปกับที่นอนแล้วงอขาขึ้นมาเล็กน้อย จากนั้นใช้หมอนรองขาไปรองไว้บริเวณใต้ข้อพับเข่า ซึ่งการนอนในท่านี้จะช่วยให้กระดูกสันหลังและเอวของเราราบลง ทำให้หลังไม่แอ่น หลังไม่เกร็ง กล้ามเนื้อรอบขาจะผ่อนคลายตามไปด้วย

ท่านอนตะแคง ให้เรานอนตะแคงแล้วนำหมอนรองขาวางราบขนานไปกับลำตัวแล้วใช้ขาข้างที่อยู่ด้านบนพาดทับหมอนรองขาไว้ โดยการนอนในท่านี้จะช่วยให้กระดูกส่วนเอวไม่บิด และตัวกระดูกสันหลังอยู่ในมุมที่ดีไม่บิดหมุนจนเกินไป

หมอนที่ใช้ควรมีลักษณะยังไง

สำหรับวิธีเลือกหมอนที่เหมาะสมกับการใช้งานนั้น ควรคำนึงถึงสรีระผู้ใช้งานเป็นหลัก หมอนที่ใช้จะต้องไม่แข็งและนุ่มมากจนเกินไป หากหมอนแข็งไปเวลาหนุนไปที่ข้อพับจะทำให้เกิดอาการเบียดที่เส้นเลือดและเส้นประสาทอันเป็นสาเหตุของภาวะเหน็บชาได้ หากหมอนที่ใช่นุ่มไปอาจส่งผลต่อความสูงและองศาในการใช้งาน ซึ่งไม่ช่วยบรรเทาอาการปวดเข่าที่เกิดขึ้น อีกทั้งต้องแน่ใจว่าหมอนที่ใช้จะไม่กลิ้งหนีไปยามเราขยับตัว 

ดังเช่นหมอน Komfy Kradle Underkicks ที่มีลักษณะเป็นครึ่งวงกลมซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานสำหรับรองขาโดยเฉพาะ หรือจะเป็นหมอน Kool Komfort Kradle ที่ออกแบบมาในรูปของตัว W ช่วยล็อคขาทั้งสองข้างให้อยู่ในสรีระที่ถูกต้อง เหมาะสำหรับผู้ที่ผ่านการผ่าตัดหัวเข่าหรือสะโพก เนื่องจากตัวหมอนจะช่วยล็อคท่านอนบริเวณขาล่างและหัวเข่า บรรเทาอาการเข่าบวม เท้าบวม ตลอดจนช่วยบรรเทาอาการตะคริว เกร็งที่ขาด้วยการปรับสมดุลท่านอนให้หลับสบายตลอดทั้งคืน

อีกทั้งเทคโนโลยีเส้นใย Komfy Downy ที่นำการผสมผสานของเส้นใยหลากหลายขนาดและมีรูปร่างคล้ายหลอดที่มีความละเอียดของเส้นใยมากกว่าหมอนทั่วไปถึง 15 เท่ามารวมกัน จึงช่วยระบายอากาศได้เป็นอย่างดี ทั้งยังสะอาด ปลอดภัย ไม่ทำร้ายผิว เหมาะกับคนเป็นภูมิแพ้ ผนึกเข้ากับผ้าหุ้ม K2 Kool ที่ให้สัมผัสนุ่มลื่น เย็นสบาย ด้วยเทคโนโลยีจากอิตาลี พร้อมบริการพิเศษปรับใยฟรีไม่จำกัดจำนวนครั้งจนกว่าคุณจะพบกับความนุ่มแน่นที่คุณพอใจ 

และนี่คือหมอน Komfy Kradle Underkicks และ Kool Komfort Kradle  หมอนรองขาที่เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพการนอน ให้ทุกคำคืนของคุณเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพในการพักผ่อน

นอนคว่ำ ไม่ดีจริง ๆ หรือ ?

หลายท่านคงเคยได้ยินใช่ไหมคะว่าการนอนคว่ำเป็นท่าที่ไม่ดี แต่แต่แต่ เราจะสามารถเชื่อแบบนั้นได้จริง ๆ หรือ มาดูข้อดีและข้อเสียของท่านอนนี้กันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

สำหรับการนอนคว่ำนั้น สรีระท่านอนรวมถึงกระดูกสันหลังจะแอ่นไปข้างหลังมากกว่าปกติ และขณะที่นอนก็ต้องมีการบิดคอไปทางซ้ายหรือทางขวา หากเราไม่จัดสรีระท่านอนให้รองรับกับร่างกาย อาจทำให้เกิดการปวดเมื่อยและก่อให้เกิดการอักเสบของกล้ามเนื้อคอได้ แต่รู้หรือไม่ว่าการนอนในท่านี้จะช่วยในเรื่องของการหายใจที่สะดวกยิ่งขึ้น เพราะลดการกดทับของปอด 2 ใน 3 ทำให้ปอดได้รับอากาศเพิ่มขึ้น และมีการแลกเปลี่ยนออกซิเจนภายในร่างกายได้ดียิ่งขึ้น 

แต่หลายท่านกลับเข้าใจว่าการรู้สึกหายใจไม่สะดวกนั้นเป็นเพราะว่าร่างกายเกิดการกดทับบริเวณปอดและหัวใจ แต่แท้ที่จริงแล้วการนอนในท่านี้เป็นการเปิดช่องให้อากาศเข้าปอดได้มากขึ้น เนื่องจากปอดของคนเราอยู่บริเวณด้านหลัง ทำให้ไม่มีอวัยวะส่วนใดกดทับปอดรวมถึงหัวใจ และเรามีกระดูกซี่โครงที่ช่วยป้องกันหัวใจอยู่ จึงไม่ต้องเป็นกังวลเลยที่การนอนในท่านี้จะกดทับหัวใจ ซึ่งสาเหตุที่จริงแล้วของการหายใจไม่สะดวกเป็นเพราะ น้ำหนักกล้ามเนื้อช่วงท้องดันกระบังลมของเรา จึงทำให้รู้สึกว่าการหายใจติดขัดนั้นเอง

การนอนคว่ำในระยะเวลาสั้น ๆ เช่น 15 – 30 นาที เป็นท่านอนคนปวดหลังที่สามารถช่วยบรรเทาอาการได้ โดยควรมีหมอนใบเล็กอย่างหมอน Kool Hotel มารองตรงช่วงหน้าอกและสะโพกเพื่อลดแรงกดทับจากด้านหลัง แต่ทั้งนี้ไม่ขอแนะนำให้นอนในท่าเดิม ๆ ตลอดทั้งคืนนะคะ

ภาพคนนอนคว่ำที่มีหมอนมารองบริเวณอก (ใช้ภาพวาดได้)

วิธีนอนที่ถูกต้อง หากจำเป็นต้องนอนคว่ำ

  • ใช้หมอน Kool Hotel ที่ไม่สูงมากมารอง เพื่อลดการบิดของช่วงคอให้น้อยที่สุด
  • นอนบนที่นอน ที่มีความเฟิร์ม จะช่วยลดการยุบตัวของช่วงตัวกับที่นอน การหายใจจะง่ายกว่าการนอนบนที่นอนที่นุ่มยวบ
  • ควรมีหมอน Kool Hotel มารองช่วงลำตัว 2 จุด คือ บริเวณหน้าอก และสะโพก เพื่อช่วยลดแรงกดทับ และช่วยยกแนวกระดูกให้อยู่ในระนาบเดียวกัน อีกทั้งยังช่วยในเรื่องของการหายใจให้สะดวกยิ่งขึ้น
ภาพคนปวดหลังนั่งอยู่บนที่นอน
Tips เพิ่มเติม สำหรับใครที่มีปัญหาอาการปวดหลังขณะนอนหลับ มาดูกันว่าท่านอนแก้ปวดหลัง หรือการนอนที่ถูกต้องมีอะไรบ้าง

ท่านอนคนปวดหลังที่ช่วยบรรเทาอาการปวด

Tips เพิ่มเติม สำหรับใครที่มีปัญหาอาการปวดหลังขณะนอนหลับ มาดูกันว่าท่านอนแก้ปวดหลัง หรือการนอนที่ถูกต้องมีอะไรบ้าง

ท่านอนหงาย

เวลาที่นอนหงาย กระดูกสันหลังของคนเราจะมีการเรียงตัวและมีการกระจายน้ำหนักของร่างกาย ท่านอนนี้จึงช่วยลดแรงกระแทกและแรงกดทับของบริเวณหลัง แต่บางท่านอาจเคยประสบปัญหาแผ่นหลังไม่แนบสนิทกับที่นอน เป็นเพราะที่นอนที่ใช้นั้นมีความแข็งเกินไป ทำให้ช่วงโค้งเว้าของหลังส่วนล่างไม่แนบกับที่นอน แก้ปัญหาง่าย ๆโดยการใช้หมอนวางไว้ที่บริเวณเข่า อย่างหมอนรุ่น Kradle Underkicks จะช่วยยกให้ระดับของหัวเข่าสูงขึ้น เพื่อให้กระดูกสันหลังยืดตรงขึ้นและแนบสนิทไปกับที่นอน อีกทั้งยังช่วยในเรื่องของการไหลเวียนโลหิตให้ดีขึ้น บรรเทาอาการเหน็บชา เส้นเลือดขอดอีกด้วย

ภาพนอนตะแคงกอดหมอนเจหลับสบาย

ท่านอนตะแคง

ท่านอนตะแคง เป็นท่านอนที่อาจช่วยให้รู้สึกนอนได้สบายมากขึ้น แต่สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ท่านอนตะแคงสามารถบรรเทาอาการปวดหลังส่วนล่างได้ก็คือ การใช้หมอนรองไว้ที่ระหว่างเข่าทั้งสอง หรือการก่ายหมอนข้างขณะที่นอนตะแคง จะช่วยปรับให้สะโพก กระดูกเชิงกราน และกระดูกสันหลัง ไม่ให้บิดและเกิดอาการเมื่อยได้ แนะนำหมอนข้างทรงตัว J อย่าง Kool Komfort Hug ที่ดีไซน์โค้งช่วยรองรับบริเวณช่วงหัวเข่า และลดการบิดของสะโพก

กรดไหลย้อนอาการตอนนอนแก้ด้วยเตียงไฟฟ้าได้จริงหรือ?

              อาการกรดไหลย้อนเป็นปัญหาต่อการนอนอย่างมาก หากปล่อยไว้ไม่รีบหาวิธีรักษาที่ตรงจุดโดยเร็วอาจจะส่งผลเสียในระยะยาวได้ ทั้งนี้คนที่เป็นกรดไหลย้อนจะมีอาการจุกเสียดแน่นท้องและที่หน้าอก เหตุเกิดจากตัวกรดไหลย้อนขึ้นมาด้านบน ซึ่งปัญหากรดไหลย้อนขณะนอนหลับนั้นเป็นสาเหตุสำคัญของการนอนไม่พอรวมไปถึงอาการนอนไม่หลับ บางครั้งผู้ป่วยกรดไหลย้อนอาจจะมีการตื่นขึ้นมากลางดึก ด้วยความรู้สึกแสบร้อนกลางอก และไม่สามารถนอนหลับต่อในที่ราบได้ แม้ว่าจะรับประทานยาแก้ปวดไปแล้วก็ตาม โดยปกติแล้วคนเราควรนอนอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน การที่นอนหลับไม่เพียงพอเป็นระยะเวลานาน ๆ สามารถเป็นสาเหตุก่อให้เกิดโรคอื่น ๆ หรืออาการข้างเคียงกรดไหลย้อนตามมาได้ สำหรับท่านใดที่มีอาการกรดไหลย้อน ทางการแพทย์ได้แนะนำให้นอนยกตัวสูง 12 นิ้ว หรือ 30 เซนติเมตร โดยการนอนในลักษณะนี้จะช่วยให้กรดไม่ไหลย้อนกลับขึ้นมา และช่วยบรรเทาอาการจุกเสียดหน้าอกได้ 

กรดไหลย้อนอาการตอนนอนแก้ด้วยเตียงไฟฟ้าได้จริงหรือ?

เราได้ทราบแล้วว่าคนที่เป็นกรดไหลย้อนควรนอนหมอนสูง ซึ่งโดยปกติแล้วคนทั่วไปจะนำหมอนหนุนมาซ้อนกันหลาย ๆ ใบ เพื่อให้ลำตัวมีการยกสูงขึ้น เป็นหนึ่งในวิธีนอนของคนที่มีอาการเป็นกรดไหลย้อน ซึ่งการนำหมอนมาวางหลาย ๆ ใบนั้น อาจจะไม่สะดวกสบาย ทำให้อึดอัด นอนไม่สบาย และไม่สามารถซัพพอร์ตสรีระได้เท่าที่ควร ในขณะเดียวกันก็ยังมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ เช่น เตียงไฟฟ้า ที่ถูกออกแบบมาเพื่อสุขภาพในการนอนโดยเฉพาะ เหมาะกับผู้ป่วยติดเตียงและยังสามารถปรับใช้กับคนที่มีปัญหากรดไหลย้อนอีกด้วย เนื่องจากเตียงไฟฟ้านั้นสามารถปรับระดับ ให้ยกตัวสูงขึ้นในลักษณะท่านั่งพิงหรือปรับให้ยกขาสูงขึ้น และยังสามารถใช้นอนได้อีกด้วยนับว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งเลยก็ว่าได้

ภาพหญิงชราบนเตียง

เตียงไฟฟ้าเหมาะสำหรับคนที่เป็นกรดไหลย้อนหรือไม่?

เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่เป็นกรดไหลย้อนคงเคยสงสัยและตั้งคำถามนี้ เกี่ยวกับความคุ้มค่าระหว่างหมอนกรดไหลย้อนและเตียงไฟฟ้า ในปัจจุบันเตียงไฟฟ้ายังมีราคาที่ค่อนข้างสูงและสามารถใช้ได้กับที่นอนในบางชนิดเท่านั้น เช่น ที่นอนยางพาราหรือเมมโมรี่โฟม ที่สามารถรับเข้ากับเตียงไฟฟ้าได้ดีในบางรุ่น ซึ่งการลงทุนกับเตียงไฟฟ้าอาจจะตอบโจทย์สำหรับบางท่านเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยติดเตียงที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ผู้ป่วยที่มีอากาศบาดเจ็บรุนแรง ผู้สูงอายุ หรือแม้แต่คนที่เป็นกรดไหลย้อนก็สามารถใช้เตียงไฟฟ้าปรับระดับความสูงต่ำได้ตามต้องการ 

แต่เตียงไฟฟ้าจะมีราคาสูงมากเมื่อเทียบกับหมอนกรดไหลย้อน อีกทั้งถ้าเทียบในเรื่องของการซัพพอร์ตและความสามารถในการรองรับสรีระนั้น เตียงไฟฟ้าอาจจะไม่ช่วยซัพพอร์ตรองรับสรีระได้มากเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับหมอนกรดไหลย้อนที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ

Kool Komfort Wave

Kool Komfort Wave หมอนที่ผลิตมาเพื่อคนเป็นกรดไหลย้อน

สำหรับคนที่เป็นกรดไหลย้อนแล้วมีอาการตอนนอน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องนอนหมอนที่ยกลำตัวให้สูงขึ้นมาตามคะแนะนำของแพทย์คือ 12 นิ้ว หรือ 30 เซนติเมตร จึงจะช่วยบรรเทาอาการกรดไหลย้อนที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งหมอน Kool Komfort Wave คือหมอนที่ถูกออกแบบมาตามคำแนะนำของแพทย์โดยเฉพาะ ทั้งความสูงที่ถูกต้องที่จะช่วยยกลำตัวเวลานอน อีกทั้งเมื่อใช้งานคู่กับหมอน Bambi  Komfy แล้ว จะยิ่งเพิ่มความสบายให้แก่ผู้พักผ่อนมากยิ่งขึ้น มาพร้อมดีไซน์เป็นทรงคลื่น (Wave) เพิ่มความโค้งนูนเติมเต็มส่วนเว้าของช่วงหลังและสะโพกให้อยู่ในท่าที่สบายและพอดีที่สุด หุ้มด้วยผ้า K2Kool นวัตกรรมพิเศษจากอิตาลี ให้สัมผัสเย็นสบาย ระบายอากาศได้ดี ไม่อบร้อน จึงทำให้ผู้ที่ใช้งานหมอนไม่รู้สึกสึกอึดอัด และสามารถพักผ่อนได้ดีตลอดคืน