กอดหมอนข้าง(อย่างถูกวิธี) ดีอย่างไร ?

ทุกคนรู้ไหมคะ.. การกอดหมอนข้างดีกว่าคิด หมอนข้างที่เรากอดกันทุกวันไม่ได้ให้เฉพาะความสบายนะคะ แต่ยังให้ข้อดีมากมายจนทำให้ประหลาดใจเลยค่า วันนี้ น้อง K Kare จะมาเล่าถึงข้อดีต่างๆ ว่าทำไมเราถึงควรกอดหมอนข้าง(อย่างถูกวิธี)กันค่า

1. ทำให้หลับสนิทมากขึ้นไม่สะดุ้งตื่นง่าย

คนที่นอนหลับไม่ค่อยสนิท ตื่นง่าย มักจะสะดุ้งตื่นกลางดึก ให้ลองกอดหมอนข้าง จะช่วยรองรับกับสรีระได้พอดี ทำให้นอนได้ถูกต้องตามสรีระศาสตร์ ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยตัว และเวลาที่เรากอดหมอนข้างยังช่วยทำให้หลับสนิทขึ้น และรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยขึ้นอีกด้วย

2. ทำให้ระบบการหมุนเวียนเลือดทำงานได้ดีเต็มที่

โดยให้พักแขนและเข่าด้านบนเวลานอนตะแคง เพราะว่าจะช่วยยกและประคองร่างกายส่วนต่าง ๆ แขน ขา เข่า เท้า จึงช่วยทำให้ระบบไหลเวียนเลือดนั้นทำงานได้ดี และขอแนะนำให้นอนตะแคงด้านขวานะคะ เพราะการนอนตะแคงฝั่งซ้าย จะกดทับหัวใจ ทำให้หัวใจทำงานหนักกว่าปกติ

3. หมอนข้างช่วยบรรเทาความเมื่อยล้า

เป็นประโยชน์มาก ๆ เวลาเรารู้สึกเมื่อยล้า ปวดตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เราสามารถใช้หมอนข้างมาหนุนรองรับส่วนนั้นๆได้เพื่อช่วยให้ลดการปวดเมื่อยลง นอกจากใช้เป็นหมอนข้างแล้ว ยังสามารถใช้เป็นหมอนรองขาหรือรองใต้เข่าก็ได้เหมือนกัน โดยนอกจากจะช่วยให้สันหลังตรงขึ้นในท่านอนหงายแล้ว ยังสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดหลังได้อีกด้วยค่า

4. ลดการปวดเข่าและสะโพก

หากใช้หมอนข้างที่รองรับในท่านอนตะแคงที่เหมาะสม หัวเข่าของเราจะต้องอยู่บนหมอนข้าง ไม่บิด หรือดึงหลังช่วงล่างของเราให้ไขว่กับร่างกาย ในท่านี้ช่วยลดอาการปวดหัวเข่าและช่วยให้เอวไม่บิดไม่ปวดหลังค่า

5. ช่วยลดอาการปวดหลังและนอนกรน

ลดอาการนอนกรนด้วยท่านอนตะแคง แต่ในระหว่างที่เราหลับเรามักเผลอพลิกตัวมานอนหงายโดยไม่รู้ตัวใช่ไหมคะ แก้ปัญหาง่ายๆโดยการใช้หมอนข้างดันหลังเอาไว้ จะช่วยให้ตัวล็อคอยู่ในท่านอนตะแคงลดอาการนอนกรนได้ค่า อีกทั้งหากใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับหลังและไม่สามารถนอนท่านอนหงายได้ การดันหลังก็จะช่วยบรรเทาอาการปวดหลังได้ค่ะ

น้อง K Kare กระซิบบอกเลยว่า หมอนข้างทั่วไปกลมๆกลิ้งๆก็ไม่รองรับสรีระเท่ากับหมอนข้างที่มีดีไซน์โค้งรับท่านอนตะแคงเหมือนหมอนข้างทรงตัว J ของKOMFY เค้านะคะ

หมอนข้าง Kool Komfort Hug ที่เค้าได้รับรางวัล จาก Demark Award ในเรื่องของดีไซน์ที่ตอบโจทย์แล้ว บอกเลยว่าฟีลลิ่งตอนนอนคือสบายมากๆค่า เพราะตัวหมอนข้างเค้าโค้งรองรับหัวเข่า ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและถูกต้องตามสรีระศาสตร์ได้อย่างทันทีค่า

ทรมานกับกรดไหลย้อน ทำไงดี ?

สาเหตุคืออะไรน้า ?

  • ความผิดปกติของส่วนปลายหลอดอาหารที่ทำหน้าที่ป้องกันกรดไหลย้อนจากกระเพาะอาหารมีความดันของหูรูดต่ำหรือเปิดบ่อยกว่าในคนปกติ
  • ความผิดปกติในการบีบตัวของหลอดอาหาร ทำให้อาหารที่รับประทานลงช้าหรืออาหารที่ไหลย้อนขึ้นมาจากกระเพาะอาหารค้างอยู่ในหลอดอาหารนานกว่าปกติ
อาการของโรค..
  • อาการแสบร้อนบริเวณหน้าอก
  • ผู้ป่วยมักมีอาการเรอและมีน้ำรสเปรี้ยวหรือรสขมไหลย้อนขึ้นมาในปาก
  • ท้องอืด แน่นท้อง คลื่นไส้ อาเจียนหลังรับประทานอาหาร
  • เจ็บหน้าอก จุกคล้ายมีอะไรติดหรือขวางอยู่บริเวณคอ
  • หืดหอบ ไอแห้งๆ เสียงแหบ เจ็บคอ อาการเหล่านี้เกิดจากกรดที่ไหลย้อนขึ้นมาบริเวณกล่องเสียง ทำให้เกิดกล่องเสียงอักเสบ

เช็กอาการกรดไหลย้อนเพิ่มเติมคลิกที่นี่

เป็นกรดไหลย้อน ต้องนอนท่าไหนนะ ?

  • หากเรานอนราบหัวต่ำ หลังจากรับประทานอาหารภายในเวลาไม่เกิน 3 ชั่วโมง ก็จะเพิ่มโอกาสการเกิดกรดไหลย้อน เพราะอาหารและกรดจะยังค้างอยู่ที่กระเพาะอาหาร ซึ่งสามารถไหลย้อนกลับมาที่บริเวณหลอดอาหารได้
  • ถุงเก็บอาหารในกระเพาะจะอยู่ทางด้านซ้าย เมื่อเรานอนตะแคงซ้าย ถุงจะย้อยลงรูเปิดหลอดอาหารที่ลงไปยังกระเพาะจะอยู่เหนือระดับกรดและอาหารที่อยู่ในกระเพาะ ฉะนั้นกรดจึงจะไม่ไหลย้อนขึ้นมา
  • แต่เมื่อใดก็ตามที่เรานอนตะแคงขวา รูเปิดหลอดอาหารจะอยู่ต่ำกว่าระดับของกรดและอาหารในกระเพาะ ทำให้สามารถย้อนกลับมาได้
  • ควรจะนอนหัวสูง เพราะถ้านอนหัวต่ำ กรดก็จะไหลย้อนขึ้นมามากขึ้น

ตัวช่วยที่ Komfy แนะนำ..

ถึงจะเป็นกรดไหลย้อนแต่สามารถหลับได้ดียิ่งขึ้น หากรู้จักวิธีรับมือและฝึกนอนท่านอนที่เหมาะสม

ตัวช่วยดีดีอย่างหมอน Kool Komfort Kalm (หมอนตัวU) ที่สามารถใช้ร่วมกับหมอนใบเดิม เพื่อยกศรีษะให้สูงขึ้น ด้วยดีไซน์ของตัวหมอนที่โอบเราไว้ไม่ให้ไหลระหว่างนอน หรือจะนอนท่านอนตะแคงซ้ายก็สามารถกอดหมอนข้างในตัวได้ อีกทั้งเพิ่มความสบายได้อีกระดับด้วยผ้าเย็น K2 Kool ไม่รู้สึกร้อนอึดอัดระหว่างคืน หมอนใบนี้จะช่วยบรรเทาอาการกดไหลย้อนได้อย่างตรงจุดเลยทีเดียว