วิธีการเลือกที่นอนคุณภาพดีสมราคา นอนสบายไม่ปวดหลัง

ที่นอนคุณภาพดีสมราคา

ที่นอนแบบไหนดีต่อสุขภาพ และยังเป็นที่นอนคุณภาพดีสมราคา สิ่งที่ต้องใส่ใจหรือพิจารณาคือที่นอนที่คุณกำลังจะเลือกซื้อนั้นผลิตจากวัสดุอะไร แล้วจะรู้เลยว่าทำไมถึงมีราคาสูง เพราะอะไรถึงถูก เพราะที่เราเห็น ๆ กันอยู่ตามร้านขายที่นอนในไทย มีที่นอนราคาตั้งแต่หลักพันจนไปถึงหลักแสน ความคุ้มค่าแบบไหนที่เราจำเป็นต้องยอมจ่ายในราคาแพงเพื่อให้ได้ที่นอนมาเพียงการพักผ่อนในแต่ละวัน การสร้างความรู้สึกการนอนที่แตกต่างกันตามบุคคลไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใคร ๆ ก็สามารถทำได้ แต่ Komfy มอบประสบการณ์นอนผ่านที่นอนคุณภาพดีสมราคา เพราะที่นอน Komfy ทุกรุ่นถูกออกแบบมาเพื่อรองรับกับการใช้งานของแต่ละบุคคลเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมการนอนที่แตกต่างกัน แน่นอนว่ามีที่นอนที่ดี มีคุณภาพแล้ว ก็ควรจะมีหมอนคู่ใจ หมอนที่ช่วยให้หลับสนิท เพื่อเพิ่มการนอนหลับให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น

สาเหตุที่ที่นอนมีราคาแพง เป็นเพราะที่นอนมีการผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพ เพื่อรองรับอายุการใช้งานยาวนานถึง 10 ปี สมมติว่าที่นอนที่คุณซื้อไปมีราคาแพง สูงถึงหลักหมื่น เมื่อเปรียบเทียบกับราคาต่อการใช้งานต่อวันแล้ว ถือว่าค่อนข้างต่ำมาก ในขณะเดียวกันที่นอนราคาถูก มักถูกผลิตมากจากวัสดุคุณภาพที่ไม่ดี ไม่มีคุณภาพมากนัก อาจมีการผสมสิ่งอื่นลงไปเพิ่มเติม ส่งผลให้ลดอายุการใช้การลงไปอีกเท่าตัว หากว่าคุณซื้อที่นอนที่ดี มีคุณภาพ ในราคาที่สูงหน่อย เพื่อแลกกับการหลับเต็มประสิทธิภาพบนที่นอนไม่ปวดหลังเมื่อเฉลี่ยราคาต่อวันออกมาเปรียบเทียบกับที่นอนราคาถูกกว่าที่อาจพาให้คุณไปซ่อมหลังกับคุณหมอได้ในอนาคต คุณอาจจะได้ความคุ้มค่าทั้งด้านตัวเงินที่ถูกกว่าและการพักผ่อนที่ดีกว่า ดังนั้นสิ่งสำคัญในเลือกซื้อที่นอนควรเลือกที่นอนที่ดีมากคุณภาพโดยดูที่ “วัสดุ” ในการผลิตที่นอนเป็นหลัก

ที่นอนคุณภาพดีสมราคา

ความแตกต่างของประเภทที่นอน

ประเภทที่นอนนั้น จริง ๆ แบ่งออกได้หลายแบบหลายประเภท โดยวัสดุที่นำมาทำที่นอนนั้นจะมีทั้งจากวัสดุธรรมชาติ วัสดุสังเคราะห์และวัสดุแบบผสม โดยสามารถแบ่งออกได้ 5 ประเภท ดังนี้

1. ที่นอนยางพารา (Latex Mattress)

คือที่นอนที่นำแผ่นยางพารามาทำเป็นที่นอน คุณสมบัติของที่นอนประเภทนี้จะมีความยืดหยุ่น และแรงต้านสูง ไม่ยุบตัว มีความคงทนนาน สามารถปรับตามสรีระร่างกายของคนได้ดี ช่วยบรรเทาอาการปวด เรียกได้ว่าเป็นที่นอนอันดับต้น ๆ ที่คนมองว่าเป็นที่นอนไม่ปวดหลัง ที่นอนประเภทนี้จะมีน้ำหนักที่ค่อนข้างมากและราคาสูงกว่าที่นอนชนิดอื่น ที่นอนยางพาราจะแบ่งออกได้อีก 2 รูปแบบ คือที่นอนยางพาราแท้ กับที่นอนยางพาราแบบอัดแน่น

2. ที่นอนนุ่น (Kapok Mattress)

เป็นที่นอนที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติโดยตัวใส้ในของที่นอนจะทำมาจากต้นนุ่น เป็นเส้นใยที่เหมาะกับการเอาไปทำที่นอนและหมอนต่าง ๆ เพราะนุ่นมีน้ำหนักค่อนข้างเบา ให้ความรู้สึกเย็น ช่วยระบายอากาศและมีราคาค่อนข้างถูก แต่ในอีกด้านหนึ่งของนุ่น คือ นุ่นมีระยะการใช้งานที่ไม่ยาวนาน เสียรูปทรงได้ง่าย หากมีการใช้งานไปนาน ๆ แล้วเกิดยุบตัวอาจจะทำให้เกิดอาการปวดหลังได้

ที่นอนคุณภาพดีสมราคา

3. ที่นอนใยมะพร้าว (Coconut Fiber Mattress)

ผลิตจากเส้นใยมะพร้าวที่แปรรูปให้เป็นแผ่นแล้วนำไปเข้ากระบวนการต่าง ๆ จนกลายออกมาเป็นที่นอน ที่นอนประเภทนี้จะมีลักษณะที่ค่อนข้างแข็ง มีความยืดหยุ่นน้อย แต่มีน้ำหนักมาก สามารถระบายอากาศได้ดี ไม่สะสมความชื้น คงสภาพได้ดีในระดับหนึ่ง ที่นอนที่ทำมาจากวัสดุใยมะพร้าวจะมีราคาถูกกว่า เหมาะกับคนที่ชอบนอนที่นอนแข็ง ส่วนข้อเสียหากที่นอนประเภทนี้เสื่อมสภาพแล้วจะเกิดอาการเปื่อย ทำให้เกิดขุย ซึ่งผลส่งต่อระบบทางเดินหายใจได้

4. ที่นอนสปริง (Spring Mattress)

จัดอยู่ในกลุ่มที่ประเภทที่นอนที่มีการผสมระหว่างวัสดุธรรมชาติ วัสดุสังเคราะห์ และเทคโนโลยีที่ช่วยรองรับและกระจายน้ำหนักเข้าไว้ด้วยกัน จึงทำให้ที่นอนประเภทนี้เป็นเป็นที่นอนยอดนิยมที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย อีกทั้งมีคุณสมบัติในด้านความยืดหยุ่นและการคืนตัวที่ดี มีน้ำหนักเบากว่าที่นอนประเภทอื่น มีโครงสปริงที่อยู่ภายใน ซึ่งจะทำให้มีความหนามากกว่าที่นอนประเภทอื่น ปัจจุบันที่นอนสปริงถูกแบ่งออกได้อีก 3 แบบ ดังนี้

  • ที่นอนบอนแนลล์สปริง (Bonnell Spring Matress) เป็นสปริงแบบดั้งเดิม รูปทรงนาฬิกาทราย จุดด้อยของสปริงตัวนี้คือการยึดสปริงแต่ละลูกเข้าไปในที่นอนทั้งหลังได้ไม่แน่นเท่าที่ควร จึงทำให้ขดลวดสปริงล้มง่าย มีโอกาสก่อให้เกิดการเสียดสีกันระหว่างสปริง ทำให้เกิดเสียงดัง
  • ที่นอนออฟฟเซตสปริง (Offset Spring Mattress) สปริงประเภทนี้ถูกพัฒนามาจากบอนแนลล์สปริง จะมีความแข็งแรงกว่า เพราะหัวสปริงมีขอบสีเหลี่ยมทำให้นึกกับสปริงได้แข็งแรง และไม่เกิดการเสียดสีของสปริง แต่จุดด้อย คือจะมีความแข็งกระด้าน ไม่ยืนหยุ่นทำให้เวลานอนอาจะส่งผลรบกวนกับคนที่นอนด้วย
  • ที่นอนพ็กเก็ตสปริง (Pocket Spring Mattress) เป็นสปริงที่ถูกอยู่ในถุงผ้าเป็นลูก ๆ ติด ๆ กัน ทำให้สปริงแต่ละลูกสามารถยืดหกได้อย่างอิสระ จะไม่มีปัญหาเวลานอน มีความยืดหยุ่น แถมรับรองน้ำหนักได้ดี แถมมีอายุการใช้งานสูงอีกด้วย
ที่นอนคุณภาพดีสมราคา

5. ที่นอนฟองน้ำ (Sponge Mattress)

คือที่นอนที่ทำมาจากการบีบอัดฟองน้ำชิ้นเล็ก ๆ เข้าด้วยกันตามกระบวนการเคมี แล้วนำมาขึ้นรูปทรงต่าง ๆ จนได้กลายเป็นที่นอน โดยส่วนมากที่นอนประเภทนี้มักจะนำไปผสมกับวัสดุธรรมประเภทอื่น ๆ เพื่อทำให้ที่นอนมีความแข็งมากขึ้น และสามารถรองรับการนอนได้ จุดเด่นของที่นอนประเภทนี้จะเป็นที่นอนนุ่ม น้ำหนักเบา ส่วนอายุการใช้งานก็ขึ้นกับเกรดของฟองน้ำแต่ละแบบ จุดด้อยของที่นอนประเภทนี้คือ หากใช้ฟองน้ำที่ไม่มีคุณภาพอาจทำให้เกิดอาการปวดหลังได้ มีการระบายที่ไม่ดี ทำให้เกิดกลิ่นอับได้ง่าย และมีความหนาแน่นน้อย เกิดการยุบตัวได้ง่าย

การจะนอนที่นอนดี ๆ สักหลังที่เหมาะกับตัวเอง อันดับแรกควรรู้ก่อนว่าที่นอนแข็งหรือนุ่มดี หรือที่นอนแน่นๆดีที่เหมาะกับสภาพร่างกายและรู้จักประเภทเบื้องต้นของที่นอนแต่ละแบบว่าแตกต่างกันอย่างไร เหมือนกับที่นอน Komfy แต่ละรุ่น ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับกับการใช้งานของแต่ละบุคคล เพื่อสร้างความรู้สึกในการนอนที่แตกต่างกัน จุดเด่นของที่นอนที่ผลิตจาก คอมฟี่ คือมีโครงสร้างพิเศษและระบบฐานรองรับน้ำหนักภายใต้คอนเซปต์ Support & Komfort Layer ประกอบด้วยชั้นต่าง ๆ ถึง 3 ชั้น Kloud Posture Latex ที่ช่วยรองรับเวลาปรับเปลี่ยนท่านอน ชั้น Signatory Pocket Spring สปริงแยกอิสระช่วยสลายแรงกดทับพร้อมรองรับสรีระทุกส่วนและชั้น Komfort Balance Foam ชั้นเลเยอร์โฟมพิเศษ ช่วยให้อากาศหมุนเวียนถ่ายเทสะดวก รองรับน้ำหนักอย่างสมดุลอีกด้วย