ทำไมนอนราบ แล้วเวียนศรีษะ หรือบ้านหมุน

อาการนอนราบแล้วเวียนหัว สามารถแก้ได้ง่ายๆ นะ

“เวียนศีรษะ” เป็นอาการที่แทบทุกคนต้องเคยเจอกับตัวเองมาบ้าง ซึ่งลักษณะอาการโดยรวมก็คือ จะเกิดอาการมึนหัว รู้สึกมึนงง รู้สึกร่างกายลอยๆ โคลงเคลง ไม่มั่นคง หรืออย่างที่เรียกกันว่า “อาการบ้านหมุน” ตื่นนอนแล้วเวียนหัวบ้านหมุน รวมไปถึงอาจมีอาการหน้ามืดร่วมด้วย  โดยอาการเวียนศีรษะสามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัย แต่อาจจะพบได้บ่อยในกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งบางคนเมื่อเกิดอาการเหล่านี้อาจมองเป็นเรื่องธรรมดาที่ใครๆ ก็สามารถเป็นได้ แต่บางครั้งอาการเวียนศีรษะก็เป็นสัญญาณเตือนเบื้องต้นของโรคอื่นๆ ได้เช่นกัน

อาการเวียนหัว เป็นหนึ่งในอาการที่หลายคนจะต้องเจอกับตัวอย่างน้อยสักครั้งในหนึ่งเดือน โดยสาเหตุอาจจะมาจากปัจจัยเรื่องของสุขภาพ หรือการพักผ่อน แต่บางคนที่ประสบปัญหาเวียนหัว บ้านหมุน ทันทีหลังตื่นนอน เรามีคำอธิบายให้เข้าใจยิ่งกันง่ายๆ โดยสาเหตุหลักของการเกิดอาการบ้านหมุนเวลานอนนั้นมีอยู่ 2 สาเหตุด้วยกัน คือ โรคน้ำในหูชั้นในผิดปกติหรือโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน (Meniere’s disease) และ โรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อนหรือโรคเวียนศีรษะขณะเปลี่ยนท่า (benign paroxysmal positioning vertigo: BPPV)


เข้าใจกับอาการเวียนหัวบ้านหมุนตอนตื่นนอนให้มากขึ้น!

โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน เกิดจากความผิดปกติของน้ำในหูที่อยู่ภายในหูชั้นใน ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะอย่างรุนแรง สูญเสียสมดุลร่างกาย อาการเวียนหัวจากโรคนี้อาจอยู่นานเป็นชั่วโมงๆ เลย ต่อมาคือ โรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน เป็นโรคอันดับต้นๆ ของคนที่มีอาการนอนราบแล้วเวียนหัว หรือบ้านหมุนเวลาตื่นนอน สามารถพบได้ในคนอายุระหว่าง 30-70 ปี โดยส่วนมากมักเกิดกับผู้มีอายุ 50 ปีขึ้นไป และพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย โดยโรคนี้สามารถได้เกิดกับหูทั้ง 2 ข้าง หรือเกิดในหูข้างใดข้างหนึ่งก็ได้เช่นกัน
การรักษาอาการบ้านหมุนหลังตื่นนอนในระดับเบื้องต้น สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง อย่างเช่น เคลื่อนไหวช้าลงเมื่อมีอาการเวียนหัว, หลีกเลี่ยนการหมุนศีรษะเร็วๆ, ลดปริมาณบุหรี่ หรือกาแฟ, หลีกเลี่ยงการพักผ่อนไม่เพียงพอ และทีสำคัญคือการนอนหนุนศีรษะให้สูงขึ้นเล็กน้อย จะช่วยบรรเทาอาการนอนแล้วเวียนหัวบ้านหมุนได้ดีกว่านอนราบ

โดยทั่วไปการทรงตัวของมนุษย์จะเกิดจากการทำงานประสานกันของอวัยวะ 3 ส่วน ที่มีความสำคัญ

  1. สายตา
  2. ระบบประสาทรับความรู้สึก
  3. ประสาทหูชั้นใน โดยมีสมองเป็นศูนย์กลางการสั่งการและคอยควบคุมการทำงานต่างๆ ให้เกิดความสมดุล

ตัวอย่างเช่น การเดินในชีวิตประจำวัน สายตาจะมองภาพต่างๆ เพื่อเก็บเป็นข้อมูลให้กับสมองว่าควรจะเคลื่อนที่อย่างไร ระบบประสาทรับความรู้สึกจะรู้ว่าขาได้เคลื่อนที่ออกไป และหูชั้นในจะคอยปรับสภาพการทรงตัวให้พอดีกับแรงโน้มถ่วงของโลกทำให้ไม่เดินเซไปมา ทุกอย่างจะทำงานอย่างสัมพันธ์กัน แต่หากความสมดุลที่รักษาไว้ไม่คงที่อีกต่อไป…อาจทำให้เกิด “อาการเวียนหัว บ้านหมุน” ขึ้น ซึ่งสามารถแบ่งสาเหตุออกได้ 2 กลุ่ม คือ

  • โรคน้ำในหูชั้นในผิดปกติหรือโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน (Meniere’s disease) เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของหูชั้นใน โดยยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่พบว่าอาการของโรคเป็นผลจากความผิดปกติของน้ำที่อยู่ภายในหูชั้นใน ซึ่งทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการเวียนศีรษะแบบรู้สึกหมุนอย่างรุนแรงร่วมกับมีอาการคลื่นไส้อาเจียนและสูญเสียสมดุลของร่างกาย ทำให้เซหรือล้มได้ง่าย อาการเวียนศีรษะที่เกิดจากโรคนี้อาจนานเป็นนาทีจนถึงหลายชั่วโมง หรืออาจเกิดอาการบ้านหมุนหลังตื่นนอน ซึ่งในระหว่างที่เกิดอาการ ผู้ป่วยควรอยู่นิ่งๆ ไม่ขยับศีรษะ เพราะอาจทำให้มีอาการเวียนศีรษะ นอนพลิกตัวแล้วบ้านหมุน นอกจากนี้ผู้ป่วยยังอาจมีการได้ยินลดลงและมีเสียงดังในหู บางครั้งอาจพบอาการหูอื้อได้ด้วย
  • โรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อนหรือโรคเวียนศีรษะขณะเปลี่ยนท่า (benign paroxysmal positioning vertigo: BPPV) เป็นโรคที่ทำให้เกิดอาการเวียนหัวตอนตื่นนอน ที่พบได้บ่อยที่สุด โรคนี้เป็นโรคที่เกิดจากความเสื่อมของหูชั้นใน จึงพบมากในผู้สูงอายุ อาการเฉพาะของโรคนี้คืออาการเวียนศีรษะบ้านหมุนที่เกิดขึ้นทันทีทันใดในขณะเปลี่ยนท่าทางของศีรษะ เช่น ระหว่างกำลังล้มตัวลงนอนหรือลุกจากที่นอน เงยหน้า ก้มหยิบของ เป็นต้น อาการมักจะเป็นระยะเวลาสั้นๆเป็นแค่ช่วงวินาทีที่ขยับศีรษะแล้วอาการจะค่อยๆหายไป ผู้ป่วยโรคนี้จะไม่มีอาการหูอื้อ ไม่พบการสูญเสียการได้ยินหรือเสียงผิดปกติในหู (ยกเว้นในรายที่เป็นโรคหูอยู่ก่อนแล้ว) รวมถึงไม่มีอาการทางระบบประสาท เช่น แขนขาชาหรืออ่อนแรง

บ้านหมุน เกิดกับใครได้บ้าง?

อาการบ้านหมุน หรือ โรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน พบได้ในคนอายุ 30-70 ปี ส่วนมากมักเกิดกับผู้มีอายุ 50 ปีขึ้นไป และพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย อัตราส่วนประมาณ 2:1 โดยโรคสามารถได้เกิดกับหูทั้ง 2 ข้าง แต่โดยทั่วไปมักเกิดกับหูเพียงข้างเดียว


สาเหตุของโรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน

สาเหตุที่ทำให้หินปูนในหูชั้นในเคลื่อน ได้แก่ การเกิดอุบัติเหตุ การกระแทกบริเวณศีรษะ ความเสื่อมตามอายุที่มากขึ้น มีภาวะอักเสบในหูชั้นใน มีการผ่าตัดหูชั้นกลางหรือใน มีการเคลื่อนไหวศีรษะซ้ำ ๆ เช่น การทำงานที่ต้องก้ม ๆ เงย ๆ


การรักษา อาการเวียนหัว บ้านหมุน

  • พยายามอย่านอนราบไปกับพื้น แต่ให้นอนหนุนศีรษะให้สูงขึ้นเล็กน้อย จะช่วยบรรเทาอาการนอนแล้วเวียนหัวบ้านหมุนได้ดีกว่า
  • เมื่อเริ่มมีอาการเวียนหัว บ้านหมุน ให้พยายามระมัดระวัง เคลื่อนไหวให้ช้าลง เพื่อป้องกันการหกล้ม
  • หลีกเลี่ยงท่าทางที่ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะในระหว่างเกิดอาการ เช่น การหมุนหันศีรษะเร็วๆ การเปลี่ยนแปลงท่าทาง อิริยาบถอย่างรวดเร็ว การก้ม เงยคอ หรือหันอย่างเต็มที่
  • ลดปริมาณ หรืองดการสูบบุหรี่ ดื่มกาแฟ
  • หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ เช่น ความเครียด ความวิตกกังวล สารก่อภูมิแพ้ต่างๆ และการพักผ่อนไม่เพียงพอ

ไอเท็มที่จะช่วยบรรเทาให้ การนอนศรีษะสูงขึ้นเล็กน้อย เพื่อบรรเทาอาการนอนราบแล้วเวียนศรีษะ

รูปภาพของหญิงสาวนอนบนที่นอน SleepKomfy

Kool Komfort Wave หมอนที่ดีไซน์ความสูง 12” ช่วยยกสรีระร่างกายให้สูงขึ้น และยังคงการซัพพอร์ตช่วงหลังด้วย ดีไซน์เคิร์ฟ ที่มีความโค้งนูนแต่ละส่วนแตกต่างกัน ช่วยเติมเต็มส่วนโค้งเว้าของช่วงหลังและรองรับน้ำหนักของผู้นอน ให้รู้สึกสบายบรรเทาอาการปวดหลัง คอบ่าไหล่อีกด้วย

3 นวัตกรรมที่ช่วยบรรเทาอาการบ้านหมุนหลังตื่นนอน!

หมอน Kool Komfort Wave จึงเป็นหมอนที่คิดค้นขึ้นมาเพื่อบรรเทาอาการนอนแล้วเวียนหัวโดยเฉพาะ ด้วยดีไซน์ของหมอนที่มีความสูงถึง 12 นิ้ว ช่วงยกร่างกายให้สูงขึ้นตามสรีระที่ถูกต้อง พร้อมกับมีซัพพอร์ตหลังเพื่อให้เวลานอนรู้สึกสบาย บรรเทาอาการปวดหลัง คอ บ่า ไหล่ ได้อีกด้วย นอกจากดีไซน์แล้ว เทคโนโลยีของหมอนใบนี้ยังมีความพิเศษไม่แพ้กัน

  • Air Kool ผ้าลายตาข่ายดีไซน์พิเศษ ที่ช่วยในการระบายอากาศได้อย่างดี หมดปัญหาเวลานอนหนุนหมอนบอดี้แล้วรู้สึกร้อนอึดอัด ไม่สบายตัว
  • K2 Kool นวัตกรรมเฉพาะของหมอน Kool Komfort Wave เป็นเนื้อผ้าให้ความเย็นสบาย มีผิวสัมผัสที่นุ่ม ไม่เก็บความร้อน ทำให้รู้สึกสบายเวลาหนุนหมอน
  • Komfy Downy เส้นใยเอกลักษณ์เฉพาะที่มีความละเอียดมากๆ ทำให้หมอนมีความนุ่ม ละมุนผิว กระจายน้ำหนัก ไม่จับตัวเป็นก้อน โอบรับกับร่างกายได้ดีเวลานอน
    ทั้งดีไซน์และเทคโนโลยีที่คิดค้นขึ้นมาอย่างรอบคอบ หมอน Kool Komfort Wave รุ่นนี้จึงเหมาะเป็นหมอนสำหรับบรรเทาอาการนอนราบแล้วเวียนหัวได้อย่างดี
Kool Komfort Wave

นวัตกรรมผ้าหุ้ม K2 Kool : กระบวนการทอแบบพิเศษให้สัมผัสเย็นสบาย ช่วยผ่อนคลายตลอดคืน ตาข่าย Air-Kool รอบตัวหมอนช่วยในการระบายอากาศไม่อับชื้น

เส้นใย Komfy Downy : เส้นใยทอละเอียดกว่าใยทั่วไป 15 เท่า ให้ความนุ่มนวลโอบรับสรีระ ไม่จับตัวเป็นก้อน ช่วยกระจายน้ำหนัก และแรงกดทับได้เป็นอย่างดี

ผ้าตาข่ายลักษณะพิเศษ Air Kool : ช่วยไล่ความร้อนและความชื้นได้ดีเยี่ยมลดความอับชื้น ต้นเหตุของการสะสมแบคทีเรีย ไม่จับตัวเป็นก้อน นุ่มสบาย


Ref :

https://www.phyathai.com

https://www.bumrungrad.com